โลกันตนรก

Socail Like & Share

โลกันตนรกตั้งอยู่ระหว่างจักรวาลทั้ง ๓ เปรียบเหมือนนำกงล้อเกวียน ๓ ล้อมาวางชิดกัน ช่องว่างระหว่างล้อทั้ง ๓ คือที่ตั้งของโลกันตนรก หรือเปรียบเหมือนนำบาตร ๓ ใบมาวางควํ่าไว้ให้ชิดกัน ช่องว่างระหว่างบาตรนั้นคือที่ตั้งของโลกันตนรก นรกนี้กว้าง ๘,๐๐๐ โยชน์ ความยาวโลกันตนรกไม่สามารถวัดได้ มีคูลึกและยาว มีความลึกที่หยั่งไม่ได้ เบื้องบนไม่มีฝาปิด เบื้องล่างมีนํ้ารองรับแผ่นดินเป็นพื้น เบื้องบนนั้นเป็นปล่องสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก ไม่มีวิมานเทพยดาในโลกันตนรกนี้มีแต่ความมืดมนยิ่งนัก สัตว์ที่เกิดในโลกันตนรกนี้มองไม่เห็นอะไรเลยราวกับหลับตาในคืนเดือนมืด แม้ว่าแสงดาวแสงเดือนและแสงตะวันจะส่องสว่างให้แก่คนทั้ง ๔ ทวีป ให้มองเห็นได้ แต่ก็ไม่สามารถจะส่องให้เห็นในโลกันตนรกได้ ทั้งนี้เพราะเดือนและตะวันซึ่งมีแสงสว่างนั้นส่องได้ในระยะไกลเพียงยอดเขา ยุคันธรเท่านั้น ไม่สามารถส่องสว่างเลยเขตกำแพงจักรวาลไปได้ โลกันตนรกนั้น ตั้งอยู่นอกกำแพงจักรวาล ดังนั้นแสงสว่างจึงส่องไปไม่ถึง แต่ถ้ามีปรากฏการณ์ ๕ ประการต่อไปนี้เกิดขึ้น จึงจะมีแสงสว่างในโลกันตนรก คือ ประการแรก เวลาที่พระโพธิสัตว์เสด็จลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ประการที่ ๒ เวลาที่ พระโพธิสัตว์ออกจากครรภ์พระมารดา ประการที่ ๓ เวลาที่พระโพธิสัตว์ตรัสรู้ ประการที่ ๔ เวลาที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาพระธรรม ประการที่ ๕ เวลาที่ พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน เมื่อสัตว์ในโลกันตนรกแลเห็นกันแล้ว ต่างก็คิดว่า แต่ก่อนเคยอยู่ตัวเดียว ณ ที่นี้ ไม่รู้ว่ามีคนมากมายอยู่ในนรกที่ร้ายนี้ด้วย แต่ช่วงที่สัตว์นรกแลเห็นกันนั้นสั้นมากเปรียบดังชั่วระยะดีดนิ้ว (ลัดนิ้วมือ) หรือราวกับชั่วฟ้าแลบ และรวดเร็วเท่ากับช่วงกล่าวคำว่า “อันใดๆ” พอกล่าวได้เท่านั้น แสงสว่างนั้นก็กลับมืดดังเดิม ช่วงที่แสงสว่างอยู่นานที่สุดคือเมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนา

ผู้ใดประทุษร้ายบิดามารดา นักบวช ครูอาจารย์ ผู้มีศีล และยุยงสงฆ์ให้ แตกกัน เมื่อตายไปก็จะเกิดในโลกันตนรกนี้ สัตว์ในนรกนี้ร่างกายสูงใหญ่ถึง ๖,๐๐๐ วา เล็บมือเล็บเท้านี้เกาะที่แห่งใดก็จะติดกับที่แห่งนั้น สัตว์นรกนี้ใช้เล็บเกาะกำแพงจักรวาล ห้อยโหนโยนตัวเหมือนค้างคาว มีความหิวโหยอย่างเหลือประมาณ ครั้นปีนป่ายไปหาอาหารก็จะถูกต้องมือของกันและกัน คิดว่าเป็นอาหาร ต่างก็ดีใจจึงกัดกินกันและกัน ต่างใช้มือตะครุบและรัดกันเพื่อกินเป็นอาหารจนตกลงในนํ้าซึ่งรองรับแผ่นดินไว้ ขณะที่ตกลงไปในนํ้านั้นเหมือนผลไม้ใหญ่หล่นนํ้าซึ่งแสงแดดไม่เคยส่องถึงเลย ดังนั้นนํ้าจะเย็นยะเยือกเป็นที่สุด พอตกลงไปในนํ้า แล้วครู่เดียวร่างกายก็เปื่อยยุ่ยราวกับก้อนอุจจาระตกลงในนํ้า เมื่อสัตว์นรกนี้ตาย แล้วก็กลับเป็นตัวตนขึ้นอีก ปีนขึ้นไปเกาะกำแพงจักรวาลด้านนอก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้รับทุกขเวทนาเป็นเวลานานชั่วพุทธันดรกัลป์หนึ่ง(พุทธันดรกัลป์หนึ่ง หมายถึง ช่วงเวลาที่พระพุทธเจ้าปรากฏขึ้นในโลกพระองค์หนึ่ง)

คณะทำงานโครงการวรรณกรรมอาเซียน