บุคคลสำคัญทางศาสนา:สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20

Socail Like & Share

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ได้มีการจัดพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 ในรัชกาลที่ 10สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่20

งานพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ได้จัดขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น. ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับแจ้งการพิจารณาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ว่า ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระมหามุณีวงศ์ วัดราชบพิธ ขึ้นรับตำแหน่งดังกล่าว ท่านนายกรัฐมนตรี จึงได้ชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบโดยทั่วกันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประวัติ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20
ชื่อเดิมของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) ชื่อว่า อัมพร ประสัตถพงศ์ เกิดในครอบครัวที่มีอาชีพค้าขายเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ณ ต. บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี มีโยมบิดาชื่อ นายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อ นางตาล ประสัตถพงศ์ เข้าเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเทวานุเคราะห์ กองบินน้อยที่ 4 ต.โคกกระเทียม อ.เมือง จ.ลพบุรี

การบรรพชาอุปสมบท
เมื่อปี พ.ศ. 2480 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ต. หน้าเมือง อ. เมือง จ. ราชบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์คือ พระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท)

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) และมีพระกรรมวาจาจารย์ คือ พระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร)

การศึกษาพระปริยัติธรรม
สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ ไปศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมและจำพรรษาที่วัดตรีญาติ ต.พงสวาย จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปี พ.ศ. 2483 ปีพ.ศ. 2484 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท และปี พ.ศ. 2486 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เมื่อพ.ศ. 2488 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

เมื่อปี พ.ศ. 2490 พระจินดากรมุนีหรือสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) ได้นำท่านมาฝากกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สกลมหาสังฆปริณายก จึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในขณะนั้น

ในปี พ.ศ. 2491 ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม ในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และสามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยคในปี พ.ศ. 2493

เมื่อปี พ.ศ. 2500 ได้จบศาสนศาสตรบัณฑิตรุ่นที่ 5 จากการเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และได้เดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยพาราณสี(Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จนจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีในปี พ.ศ. 2512

ในปี พ.ศ. 2552 ได้รับการถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ จากสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ปี พ.ศ. 2553 ได้รับการถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ จากสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ตำแหน่งปัจจุบัน
เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
กรรมการมหาเถรสมาคม
กรรมการคณะธรรมยุต
กรรมการเถรสมาคมคณะธรรมยุต
ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต)
แม่กองงานพระธรรมทูต

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2514 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปริยัติกวี
พ.ศ. 2524 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารสุธี
พ.ศ. 2533 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเมธาภรณ์
พ.ศ. 2538 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมเมธาภรณ์
พ.ศ. 2543 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระสาสนโสภณ
พ.ศ. 2552 เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์