นรกบ่าว

Socail Like & Share

นรกเล็กต่างๆ อันเป็นบริวารนรกบ่าวนั้นมีจำนวนมากจนไม่สามารถจะบรรยายได้ทั้งหมด จะกล่าวแต่เฉพาะนรกบ่าว ๑๖ ขุมซึ่งอยู่ล้อมรอบสัญชีพนรก ซึ่งมีชื่อว่าอุสุทนนรกบ่าวรก เป็นนรกที่อยู่สูงสุดเหนือนรกทั้งหลาย เมื่อพระมาตุลีจะนำเสด็จ พระยาเนมิราชทอดพระเนตรนรกนั้น ได้นำเสด็จไปทอดพระเนตรนรกบ่าว ๑๖ ขุมก่อนดังนี้

นรกขุมแรก ชื่อ เวตรณีนรก (นรกแม่น้ำหวาย) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สิน และบริวารมากมาย แต่มักทำร้ายผู้อื่น ชิงทรัพย์สินและข้าวของของผู้อื่น เพราะมีกำลังมากกว่า เมื่อตายแล้วจึงเกิดในนรกขุมนี้ ยมบาลของนรกขุมนี้ลงโทษด้วยไม้ฆ้อน มีดพร้า หอก ดาบ หลาว แหลน อาวุธที่ใช้ในการฆ่าด้วยการแทง ยิง และตีนั้น เป็นเหล็กแดง มีเปลวไฟพุ่งขึ้น ราวกับไฟไหม้ฟ้า ไม่มีวันดับ ยมบาลทั้งหลายถืออาวุธดังกล่าวไล่แทงตี ฝูงสัตว์นรกให้เจ็บปวดทรมานน่าเวทนา จนไม่สามารถจะทนได้

ในนรกขุมนี้ มีแม่น้ำใหญ่ชื่อว่า เวตรณี มีรสเค็มยิ่งนัก ถ้าผู้ใดหนีลงแม่นํ้า ก็จะมีเส้นหวาย และเครี่องหวายระเนื้อตัวและถูกทิ่มแทงด้วยหนามหวายใหญ่เท่าจอบ เหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟ พอหนีลงนํ้าร่างกายก็ถูกหนามหวายตัดขาด ราวกับถูกมีดกรดอันคม ใต้เครื่องหวายนั้นมีขวากใหญ่และยาว เป็นเหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟไหม้ตัวเขาราวกับไฟไหม้ต้นไม้ในป่า ผู้ใดหลุดจากหนามหวายไปได้ก็จะตกลงไปบนขวากเหล็กซึ่งอยู่ภายใต้นั้น ร่างกายขาดวิ่นทุกแห่ง เมื่อขวากเหล็กนั้นแทงเสียบตัวเขาอยู่ราวกับปลาที่ถูกเสียบ ทันใดนั้น เกิดเป็นไฟไหม้ขวากเหล็กแล้วลุกไหม้ร่างกายสัตว์นรกนั้นอยู่เป็นเวลานาน จนร่างกายสุก เน่าและเปื่อย ไปในที่สุด

ใต้ขวากเหล็กในแม่น้ำเวตรณีนั้น มีใบบัวหลวงเป็นเหล็กแดง มีคมรอบตัว คมมีดใบบัวนี้เป็นเปลวไฟลุกไม่มีวันดับ ถ้าสัตว์นรกใดลอดขวากเหล็กไปได้ ก็จะตกลงบนใบบัวเหล็กแดงอันคมนั้น ใบบัวจะบาดร่างกายจนขาดวิ่นราวกับถูกตัดตามขวางและตามยาวตลอดตัวเขา จะติดอยู่ในใบบัวเหล็กแดงนั้นเป็นเวลานาน แล้วจึงหลุดตกลงไปในนํ้า นํ้านั้นเค็มมากทำให้แสบตามเนื้อตัวแสนสาหัส ดิ้นไปมาราวปลาถูกคนตีที่บนบก ทันใดนั้น แม่น้ำนั้นก็กลายเป็นเปลวไฟไหม้ตัวเขา มีควัน และเปลวไฟพุ่งขึ้นจากตัวทุกแห่ง ใต้ท้องนํ้าเวตรณีนั้น มีมีดคมวางหงายอยู่ทุกแห่ง เมื่อสัตว์นรกร้อนด้วยเปลวไฟที่ไหม้ก็จะคิดในใจว่ากูจะดำนํ้านี้ลงไป อาจจะพบนํ้าเย็นภายใต้น้ำ จะได้มีกำลังวังชาขึ้น ดังนั้น จึงดำนํ้าลงไป แต่ก็ถูกคมมีดที่หงายอยู่ใต้ท้องนํ้านั้นตัดตัวเขาขาดทุกแห่ง ยิ่งได้รับความเจ็บแสบแสนสาหัส ส่งเสียงร้องดังด้วยความเจ็บปวดแทบสิ้นชีวิต บางครั้งนํ้าได้พัดตัวเขาให้พุ่งขึ้น บางครั้งลมก็พัดตัวเขาให้ดำลง ได้รับทุกขเวทนายิ่งนัก ผู้ที่เกิดในเวตรณีนรกนั้น เป็นทุกข์ เจ็บปวดดังกล่าวแล้ว

นรกขุมที่สอง ชื่อ สุนัขนรก (นรกหมา) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยด่า ว่านักบวชผู้ทรงศีล พ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ครูอาจารย์และอุปัชฌาย์ ในสุนัขนรกนั้น มีหมา ๕ จำพวกได้แก่ หมาขาว หมาแดง หมาด่าง หมาดำ และหมาเหลือง หมาเหล่านี้รูปร่างใหญ่โตเท่าช้างสารทุกตัว แร้งกาที่อยู่ในนรกนี้ ก็มีรูปร่างใหญ่โต เท่าเกวียนทุกตัว ปากและเล็บของแร้งและกาเป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟไม่รู้ดับ ฝูงแร้งกาและหมารุมจิกและกัดร่างกายสัตว์ที่อยู่ในนรกขุมนี้ด้วยผลบาปกรรมของเขา ทำให้ไม่ตายแต่ต้องทนเจ็บปวดสาหัส ได้รับทุกขเวทนาเป็นอันมาก ในนรกที่ชื่อว่า สุนัขนรกนี้

นรกขุมที่สาม ชื่อว่า สโชตินรก (นรกเปลวไฟ) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยด่าว่าผู้ทรงศีล ซึ่งไม่เคยทำผิดต่อตนหรือสิ่งอื่นใดเลย แต่กล่าวร้ายแก่ท่าน ประดุจเอาหอกมาแทงหัวใจท่านให้ได้รับความเจ็บอาย คนเช่นนั้นเมื่อตายไปแล้ว ก็จะมาเกิดในนรกขุมนี้ พื้นนรกเป็นเหล็กแดงเป็นไฟไม่รู้ดับ เมื่อสัตว์นรกเหยียบบนแผ่นเหล็กแดง ก็จะถูกเหล่ายมบาลใช้ฆ้อนเหล็กแดงใหญ่เท่าลำตาล ตีให้วิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดงนั้น ขณะที่วิ่งแผ่นเหล็กแดงจะลุกเป็นไฟไหม้เท้า ทำให้ร้อนน่าเวทนายิ่งนัก เมื่อเหล่ายมบาลไล่ตีสัตว์นรกนั้น เนื้อตัวเขาก็จะแตกละเอียดจนเป็นเถ้าผงไป แต่แล้วเขาก็กลับคืนร่างดังเดิม เพราะผลบาปกรรมที่ทำ ไว้ยังไม่สิ้น จำทนทุกขเวทนาในนรกที่ชื่อว่า สโชตินรก นี้

นรกขุมที่สี่ ชื่อ อังคารกาสุนรก (นรกหลุมถ่านเพลิง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยชักชวนผู้อื่นให้ทำบุญ แต่นำเอาทรัพย์สินที่คนมาทำบุญนั้นมาใช้ประโยชน์ส่วนตน คนเช่นนี้เมื่อตายแล้ว จะมาเกิดในนรกขุมนี้ ยมบาลที่รักษานรก ถือหอกดาบเป็นเหล็กแดงเป็นไฟไม่รู้ดับไล่แทง ฟัน ตี และผลักให้ตกลงในหลุมถ่านไฟที่ลุกแดง ถ่านไฟได้ลุกไหม้ตัวเขาเหล่านั้นทำให้ร้อนน่าเวทนานัก เหล่ายมบาลจะใช้จะหวักเหล็กอันใหญ่ ตักถ่านไฟแดงรดบนหัวเขา ร้อนจนทนไม่ได้จึงส่งเสียงร้องดัง เพราะผลบาปกรรมที่ทำไว้ยังไม่สิ้น เขาจึงยังไม่ตาย ครั้นหนีขึ้นจากหลุมถ่านไฟได้ ก็วิ่งหนี แต่เหล่ายมบาลก็ไล่ต้อน ตี ทุ่ม แทงให้ ตกลงหลุมซํ้าแล้วซํ้าอีก จนกว่าจะสิ้นอายุในนรกนั้น

นรกขุมที่ห้า ชื่อ โลหกุมภีนรก (นรกหม้อเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยทรมานทำร้ายสัตว์ นักบวชผู้ทรงศีล ครูอาจารย์ ในนรกขุมนี้มีหม้อเหล็กแดง ใบใหญ่เท่าภูเขา ในหม้อนั้นเต็มไปด้วยเหล็กแดงที่ละลายเหลวเป็นนํ้า เหล่ายมบาลจับสองเท้าของคนนรกแล้วหย่อนหัว พุ่งลงไปในหม้อใหญ่นั้น เขาได้รับความร้อนดิ้นไปมา ได้รับทุกขเวทนา ซ้ำไปมาอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะสิ้นอายุของเขา

นรกขุมที่หก ชื่อ อโยทกนรก (นรกนํ้าเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเชือดคอสัตว์ให้ตาย สัตว์นรกในขุมนี้มีร่างกายสูงใหญ่ถึง ๖ พันวา มีหม้อเหล็กแดงใหญ่เท่าภูเขา เหล่ายมบาล ใช้เชือกเหล็กแดงที่ลุกเป็นไฟไม่รู้ดับไล่รดตัว แล้วบิดคอ จนขาด แล้วเอาหัวที่ขาดทอดลงในหม้อเหล็กแดงนั้น เขาจึงกลายเป็นสัตว์หัวขาด ทันใดนั้น ก็เกิดหัวใหม่ขึ้นมาแทน แล้วเหล่ายมบาลก็เอาเชือกเหล็กแดงบิดคอจนขาด แล้วทอดหัวนั้นลงในหม้อเหล็กแดง ซ้ำแล้วซํ้าอีกจนสิ้นอายุ และสิ้นบาปกรรมของเขา

นรกขุมที่เจ็ด ชื่อ ถุสปลาสนรก (นรกแกลบและฟาง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเอาข้าวลีบ แกลบ ฟางมาปนกับข้าวเปลือก แล้วเอาไปหลอกขาย ว่าเป็นข้าวดี ในนรกขุมนี้มีแม่นํ้าที่มองดูใสไหลไปมาไม่ขาดสาย ใต้ท้องนํ้าเต็มไปด้วยแผ่นเหล็กแดงลุกเป็นไฟ ไหม้ร่างกายสัตว์นรกให้ได้รับความร้อนมากมาย เมื่อเขากระหายน้ำมากแทบไส้จะขาด เขาก็ยกมือทั้งสองขึ้นพาดบนหัวร้องไห้ คร่ำครวญ วิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดง ไฟก็ลุกไหม้เท้าเขา เขาก็จึงวิ่งตรงไปที่แม่นํ้าที่มองดูใส แล้วกระโจนลงไป ทันใดนั้น นํ้าก็กลายเป็นไฟขึ้นทั้งสองฟากฝั่ง ลุกไหม้ตัวเขา นํ้านั้นก็จะกลายเป็นข้าวลีบและแกลบลุกเป็นไฟไหม้ตัวเขาทำให้กระหายนํ้าจนทนไม่ได้ เขาก็ร้องไห้แล้วกินข้าวลีบและแกลบนั้นเข้าไป เมื่อข้าวลีบและแกลบตกถึงท้องเขาก็จะกลายเป็นไฟพุ่งออกทางทวารหนัก เขายกมือขึ้นพาดเหนือหัวแล้วร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ตราบเท่านานแสนนาน

นรกขุมที่แปดชื่อ สัตติหตนรก (นรกหอก) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยลักขโมยทรัพย์สินผู้อื่น และกล่าวโทษผู้นั้นว่าเป็นโจร จนเจ้าของทรัพย์นั้นพ่ายแพ้ แล้วเก็บเอาทรัพย์สินนั้นไว้แต่ผู้เดียว เหล่ายมบาลที่รักษานรกขุมนี้ ยืนรายรอบสัตว์นรกเหล่านี้ ราวกับคนยืนล้อมสัตว์ในป่าไม่ให้หนีรอดไปได้ เหล่ายมบาลใช้หอกชะนักไล่พุ่งแทงเขาเหล่านั้นจนเป็นบาดแผลเจ็บตลอดร่าง แหลกเหมือนใบตองแห้งที่ถูกสับ

นรกขุมที่เก้า ชื่อ พิลสนรก (นรกชิ้นเนื้อ) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคย ฆ่าปลานำมาขายที่ตลาด เหล่ายมบาลใช้เชือกเหล็กแดงคล้องคอเขาเหล่านั้น แล้วลากไปไว้เหนือแผ่นเหล็กแดง แล้วแทงด้วยหอกชะนัก ฟันด้วยมีดแล้วแล่เนื้อออกวางเรียง เปรียบเหมือนชิ้นเนื้อชิ้นปลาวางเรียงขายในตลาด แต่แล้วเขาก็จะกลับคืนร่างดังเดิมไปมาหลายครั้งหลายหน

นรกขุมที่สิบชื่อ โบราณมิฬหนรก (นรกอาจมเก่า) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยถูกท้าวพระยาใช้ให้ไปเก็บภาษีอากรจากราษฎร แต่กลับเรียกเก็บมากกว่ากำหนด ผู้ที่เคยกล่าวให้ร้ายแก่ผู้อื่น ฆ่า ติผู้ที่เป็นมิตรกับตน รวมทั้งผู้ที่กระทำบาปโดยการข่มขู่ผู้อื่นว่าจะใช้ชื่อคาผูกมือและเท้าเขา ข่มเหงเขา คนเหล่านี้ตายไปจะเกิดในนรกขุมนี้ จมอยู่ในแม่นํ้าใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาจมเหม็นยิ่งนัก แม้อยู่ห่าง ๑๐๐ โยชน์ก็ยังเหม็นอยู่ สัตว์นรกนั้นอายุยืนมากนัก เมื่ออยู่นานทนไม่ไหวก็กินอาจมนั้นแทนข้าวน้ำทุกวัน

นรกขุมที่ ๑๑ ชื่อ โลหิตปุพพนรก (นรกเลือดและหนอง) ผู้ที่อยู่ในนรก ขุมนี้ แต่ก่อนเคยทำร้ายพ่อแม่ พระสงฆ์ ผู้ที่มีคุณ ผู้ทรงศีล คนนรกจะอยู่ในแม่น้ำใหญ่เต็มไปด้วยเลือดและหนองไม่มีอะไรจะกิน จึงร้องไห้ เพราะความหิวจัด จึงกินเลือดและหนองนั้น แต่เลือดและหนองที่กลืนเข้าไปกลับกลายเป็นไฟไหม้ทุ่งออกทางทวารหนัก

นรกขุมที่ ๑๒ ชื่อ โลหพิฬสนรก (นรกเบ็ดเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยติดต่อซื้อสินค้าจากผู้อื่นแล้วหลอกว่าจะจ่ายเงินให้ แต่แล้วก็ไม่ให้เงิน แต่กลับโกงเอาสิ่งของท่านด้วยตาชั่งหรือทะนานก็ดี เหล่ายมบาลใช้คีมคีบลิ้นสัตว์นรกเหล่านี้ออกมาแล้วเอาเบ็ดเหล็กเกี่ยวลิ้นไว้ คันเบ็ดนั้นใหญ่เท่าลำตาล เป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟไม่รู้ดับ เหล่ายมบาลก็จะลากตัวเขาไปและแล้วผลักให้ ล้มลงบนแผ่นเหล็กแดง ไฟก็จะลุกไหม้ทั่วตัวเขา แล้วยมบาลก็จะแล่เอาหนังสัตว์นรกออกไปชั่งไว้เหมือนชั่งหนังวัว เหล่าสัตว์นรกทนเจ็บไม่ไหว ร้องไห้ ครํ่าครวญ ตัวสั่นระริกราวกับปลาที่ถูกหักคอแล้วโยนขึ้นมาบนบก อาเจียนเป็นขี้ เป็นเลือดตลอดเวลา

นรกขุมที่ ๑๓ ชื่อ สังฆาฏนรก (นรกพิฆาต) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อน คือ ชายที่เป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น หรือหญิงที่มีชู้ ในนรกขุมนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหล่ายมบาลก็จะเอาหอกทิ่มแทงตัวเขาจนขาดวิ่น เลือดและหนองไหลออกมามากมาย ราวกับวัวที่ถูกแทงด้วยหอก มีเลือดไหลทั่วตัว ร่างกายของสัตว์นรกนั้น จมอยู่ในแผ่นเหล็กแดงครึ่งตัว ราวกับถูกฝังไว้ เขาจะยกมือขึ้นพาดหัวร้องไห้ ครํ่าครวญ และแล้วก็จะมีภูเขาเหล็กแดงลุกเป็นไฟ กลิ้งเข้ามาด้วยเสียงดังราวกับ เสียงฟ้าผ่า ทับตัวเขาแหลกตายไป แต่เขาก็จะกลับคืนร่างดังเดิม แล้วก็มีภูเขาเหล็กแดงกลิ้งมาทับเขาอีก บางครั้งก็จะมีภูเขาเหล็กแดงใหญ่ ๒ ลูก กลิ้งเข้ามาหนีบตัวเขาทั้งสองข้างไว้เหมือนอ้อยถูกหนีบ เป็นอยู่เช่นนี้ซํ้าแล้วซํ้าเล่า

นรกขุมที่ ๑๔ ชื่อ อวังสิรนรก (นรกหย่อนหัวลง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น ในนรกนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมาย ยมบาลจับสองเท้าของเขาขึ้นแล้วหย่อนหัวลงในขุมนรกนั้น แล้วใช้ฆ้อนเหล็กแดงตีร่างของเขาให้แหลกละเอียดไป

นรกขุมที่ ๑๕ ชื่อ โลหสัมพลีนรก (นรกต้นงิ้วเหล็ก) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนคือชายที่เคยเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น หรือหญิงมีสามีแล้วคบชู้นอกใจสามี ในนรกนี้ มีป่าไม่งิ้ว ต้นงิ้วนั้นสูงต้นละหนึ่งโยชน์ มีหนามเป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟ หนามงิ้วยาว ๑๖ องคุลี ลุกเป็นเปลวไฟอยู่มิรู้ดับ ในนรกขุมนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมาย เขาเหล่านั้นเคยเป็นชู้กันมาก่อน บางครั้งผู้หญิงจะขึ้นไปอยู่บนยอดงิ้ว ส่วนผู้ชายอยู่ข้างล่าง เหล่ายมบาลก็จะเอาหอกดาบหลาวแหลนที่เป็นเหล็กแดง คม แทงเท้าผู้ชายบังคับให้ขึ้นไปหาผู้หญิง ยมบาลกล่าวว่า ชู้ของเจ้าอยู่บนยอดงิ้ว โน้น จงขึ้นไปเร็วๆ อย่าอยู่ที่นี้ ผู้ชายเหล่านั้นทนเจ็บไม่ได้จำใจต้องปีนขึ้นไปบนต้นงิ้วนั้น ครั้นขึ้นไปแล้ว ก็ถูกหนามงิ้วนั้นบาดตัวเขาขาดทั่วร่าง แล้วก็มีเปลวไฟไหม้ตัวเขาจนทนไม่ไหวต้องกลับหัวบ่ายหน้าลงมา เหล่ายมบาลก็เอาหอกแทงซ้ำแล้วร้องว่าเจ้ารีบขึ้นไปหาชู้ของเจ้าบนยอดงิ้วโน้น จะลงมาทำไมเล่า เขาทนเจ็บปวดไม่ได้ แต่ไม่อาจโต้เถียงยมบาลได้ เขาจึงต้องปีนขึ้นไป ถูกหนามงิ้วบาดทั่วทั้งตัว เจ็บปวดยิ่งนักแทบจะขาดใจตาย ด้วยความกลัวยมบาล เขาจึงปีนขึ้นไปถึงยอดงิ้ว ครั้นใกล้จะถึง ก็มองเห็นผู้หญิงกลับลงมาอยู่ข้างล่าง ยมบาลก็จะแทง เท้าผู้หญิงให้ขึ้นไปหาชายชู้ ร้องว่า เจ้าจงเร่งขึ้นไปหาชายชู้ของเจ้าบนยอดงิ้วนั้น หญิงชายเหล่านั้นปีนขึ้นปีนลงหากันอยู่อย่างนั้นแต่มิได้เคยพบกันเลย ยมบาล บังคับให้หญิงชายปีนขึ้นปีนลงหากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้รับความลำบากยิ่งนัก

นฺรกขุมที่ ๑๖ ชื่อ มิจฉาทิฏฐินรก (นรกของผู้เห็นผิด) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนคือ ผู้ที่เห็นผิด ๒ ประการ คือ เห็นว่าสิ่งทั้งหลาย ไม่มีเหตุ ประการหนึ่ง และทำความดีไม่ได้ดีอีกประการหนึ่ง คนเหล่านี้ไม่รู้จักบุญ ทำแต่บาป ในนรกขุมนี้มียมบาลร่างใหญ่ถือหอกดาบหลาวแหลนและค้อนเหล็กแดง ลุกเป็นไฟ มิรู้ดับ ทิ่ม แทง ฆ่า ฟัน สัตว์นรกเหล่านั้นได้รับความเจ็บปวดทนทุกขเวทนายิ่งกว่านรกทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว

ทั้งหมดที่กล่าวแล้วนี้ คือ นรกบ่าว ๑๖ ขุม อยู่รอบสัญชีพนรก ซึ่งเป็น นรกขุมบนสุด ส่วนนรกบ่าวทั้งหลายที่อยู่รอบนรกใหญ่ ๗ ขุม ทั้งอยู่ใต้สัญชีพนรกลงไป ไม่อาจจะกล่าวถึงได้เลย เพราะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้อีกมากมายนัก

คณะทำงานโครงการวรรณกรรมอาเซียน