มารยาทบนรถประจำทาง

Socail Like & Share

นุชนาฏถามขึ้น เมื่อเห็นพี่สาวหอบหนังสือหลายเล่ม ใบหน้าก็เป็นมัน แสดงให้รู้ว่าการเดินทางมาจากโรงเรียนวันนี้ เธอต้องโหนรถเมล์มาตลอดทาง
“พี่ขวัญ ทำไมอ่อนระโหยโรยแรงอย่างนั้นเชียวหรือคะ?”

ขวัญใจตอบน้องสาวว่า
“โอย เหนื่อยแทบตายเชียวแหละ ห้อยโหนโจนทะยานมาตลอดทางเลยรู้ไหม” แล้วเธอก็วางหนังสือลงบนโต๊ะ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อ

เกียรติน้องชายคนเล็กที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาบ้างว่า
“แหม! ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ พูดยังกับสมุนพระรามแน่ะ ทำไมนะถึงไม่มีใครเอื้อเฟื้อพี่สาวเราเลย”
ขวัญใจทรุดตัวลงนั่งระหว่างน้องทั้งสองแล้วเริ่มปรับทุกข์กัน

ขวัญใจพูด
“หายากนักละสมัยนี้ สุภาพบุราหายากเต็มที เราขึ้นรถเมล์ ไม่ค่อยจะมีเล้ยที่จะเอื้อเฟื้อ แย่มากใจดำ

เกียรติน้องชายพูดว่า
“ไหงพูดงั้นล่ะครับ พี่กลาง พูดอย่างนี้ไม่ดีนา ผมคนหนึ่งไงล่ะครับ ที่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยเลยที่จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เวลาที่ควรจะเอื้อเฟื้อ มันรู้สึกอึดอัดใจอายพิกล ถ้าหากจะให้สุภาพสตรี เด็ก หรือคนแก่ยืนโหนรถในขณะที่เรานั่งอย่างสบาย ผู้หญิงน่ะซี บางทีเขาลุกให้ก็ไม่นั่ง เราก็เลยเก้อ บางทีนึกๆ ก็ไม่อยากลุกให้ กลัวได้อายต้องตัดสินใจอยู่เป็นนาน”

นุชนาฎบอกว่า
“ไม่จริง ไม่จริง เธอละก็ดีแต่ว่าผู้หญิง”

ขวัญใจต้องห้ามเสีย ก่อนที่จะมีการโต้เถียงต่อไป
“นี่น้องจ๋า ฟังพี่หน่อยได้ไหม พูดก็พูดเถิด ว่ากันที่จริงน้องพูดก็มีเหตุผลทั้งสองฝ่าย คือบางที พวกของเกียรติก็ไม่ยอมเอื้อเฟื้อเลย คนประเภทนี้เราน่าจะเรียกว่า “ผู้ชาย” ไม่ใช่ “สุภาพบุรุษ” แต่บางที สุภาพบุรุษเขาเอื้อเฟื้อ สุภาพสตรีก็ไม่ยอมนั่ง ทำให้เขาเก้อ น่าเห็นใจอยู่หรอก อุตส่าห์ปรารถนาดีเสียสละออกอย่างนั้น เพราะฉะนั้น กลางจำไว้นะจ้ะว่า ถ้ามีสุภาพบุรุษเขาเอื้อเฟื้อแล้ว เราต้องนั่ง บางทีพี่เห็นบางคนนั่งเหมือนกัน แต่จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี น่าเกลียดมาก เป็นมารยาทที่ไม่งามเลย คนไทยเราน่าจะเอาอย่างฝรั่งเขาอยู่ข้อหนึ่งคือ ฝรั่งเขาขอบคุณกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะโดยสารแท็กซี่ เขาก็ขอบคุณโชเฟอร์ โชเฟอร์ก็ขอบคุณผู้โดยสาร เข้าร้านอาหาร เขาก็ขอบคุณบริกร คำว่า Thank you และ Sorry ติดปากเขาเสมอ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นความน่ารักอย่างมาก การกล่าวขอบคุณไม่ทำให้เราเสียอะไรเลย แต่กลับมีผลมากมายมหาศาล เป็นการสร้างความน่ารัก น่านับถือ น่าเอ็นดู ให้กับตัวเราด้วย ใครๆ จะชมเชยเราว่าเป็นผู้มีมารยาทงาม และเต็มใจจะช่วยเหลือเราอยู่เสมอ”

เกียรติพูดว่า
“พี่ขวัญพูดน่าฟัง ผมเห็นด้วย เช้าๆ ผมออกไปโรงเรียน เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสมอ เป็นเด็กมัธยม ราวๆ ม.ศ. ๒-๓ มารยาทดีมาก ผมได้ยินแกขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ ไม่ว่าจะมีคนลุกให้หรือถือกระเป๋าให้ ถ้าแกมีที่นั่งก็ช่วยเหลือถือกระเป๋า ถือหนังสือให้นักเรียนคนอื่นๆ ด้วย

นุชนากพูดบ้างว่า
“บางคนก็ใจดำเหลือเกิน ไม่เห็นช่วยเหลือใครเลย ทำไมเขาไม่รู้สึกกระดากใจบ้างนะ ชอบกลจริง กลางจะเล่าให้ฟัง เมื่อวานซืน กลางไปสุขุมวิทกับเพื่อน ขึ้นรถไปถึงสี่แยกราชประสงค์ รถคันนั้นแน้นแน่น มีคนแก่ขึ้นไปคนหนึ่ง แก่มากเชียวอายุราวๆ ๖๐ ได้ แกขึ้นไม่ค่อยได้ อยู่แค่ประตูรถยืนก็ไม่ถนัด และตรงเก้าอี้ตัวหน้าประตูนั่นแหละ มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ ถ้าจะโหนรถเมล์ก็จะไม่ลำบากอะไรเลย รูปร่างก็ผึ่งผายดี แต่จิตใจไม่สูงเลย นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แหม! กลางโมโหจังเลย คนพากันมองเป็นตาเดียว ถ้ากลางมีที่นั่งนะคะ กลางจะลุกทันทีเลย อยากจะรู้ว่า แม้แต่ผู้หญิงเขายังลุก นายคนนั้นจะรู้สึกอายไหมนะ”

ขวัญใจพูดต่อว่า
“นั่นซี การขึ้นรถเมล์ก็เป็นการได้ประสบการณ์เหมือนกัน บางทีเราก็ได้เห็นอะไรๆ แปลกๆ จากในรถเมล์”

เกียรติพูดขึ้นว่า
“บางคนนะครับ พอขึ้นมาก็จุดบุหรี่สูบควันโขมง ช่างไม่เกรงใจผู้โดยสารอื่น และเด็กเล็กที่ยัดเยียดแออัดกันเสียเลย บางคนก็ส่งเสียงคุยราวกับรถเมล์เป็นรถส่วนตัวของฉัน โดยไม่คิดว่าใครเขาจะรำคาญ ที่ร้ายนักก็ยังมี ประเภทกล่าวคำด่าว่าด้วยความคะนองปาก ช่างไม่คิดว่าคนฟังเขาจะตีราคาคนพูดอย่างไรเลย

ขวัญใจพูดกับเกียรติว่า
“เกียรติ! ที่โรงเรียนน้องมีนักเรียนแต่งตัวแบบจิ๊กโก๋ไหม แหม! พี่เห็นกลุ่มหนึ่งเมื่อเช้านี้ ไม่รู้ว่านักเรียนที่ไหน เห็นข้างหลัง นุ่งกางเกงทรงสมัยใหม่คับแสนคับจดมดเข้าไปก็คงตาย เอวกางเกงเลื่อนลงมาอยู่ที่สะโพก! โอย! ผมก็ยาวยังกะผู้หญิง!”

เกียรติตอบ
“ทรง Beatles ฮะ”

ขวัญใจพูดต่อว่า
“รู้แล้วจ้ะ มันน่าเกลียด ทำไมเขาจึงเอากางเกงแบบนั้นมาแต่งกับเครื่องแบบ ดูน่าเกลียดพิลึก นักเรียนหญิงบางคนนุ่งกระโปรงสั้นเต่อเหลือเกิน น่าเกลียดมาก ที่สงสารพ่อแม่ของเด็กพวกนั้นเหลือเกิน ลูกหลานทำไม่ดีผู้ใหญ่ก็หนักใจ เธอสองคนจำไว้นะจ๊ะพี่พูดนี่ เพื่อให้เห็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี ซึ่งเราควรหลีกเลี่ยง เรื่องคุยกันเสียงดังลั่นในรถเมล์อีก พี่ขอร้องอย่าเอารถเมล์เป็นสถานที่สังสรรค์เป็นอันขาด พี่คิดว่าทั้งกลางและเกียรติ คงจะทำได้โดยไม่อึดอัด เพราะเราได้รับการอบรมมาดีแล้วทั้งนั้น คนเป็นสัตว์ประเสริฐ ก็ต้องมีระเบียบวินัย จริงไหมจ๊ะ”

นุชนาฏบอกพี่สาวว่า
“ไม่เคยคิดจะทำเลยค่ะ พี่ขวัญ ไว้ใจได้จริงไหมเกียรติ”

เกียรติตอบ
“จริงครับ รับเอาด้วยเกียรติของสุภาพบุรุษน้อย”

นุชนาฏพูดต่อว่า
“อย่ากลายเป็นเกียรติของผู้ชายไปก็แล้วกัน”
พี่น้องทั้งสามคนก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข

ขวัญใจพูดว่า
“พี่ไปอาบน้ำละนะ คุยเพลินอยู่ตั้งนานสองนาน น้องจะได้ทำงานกันเสียที

ที่มา: จากหนังสือเรื่อง มรรยาทงาม ของ ผกาวดี อุตตโมทย์