คำพังเพยเกี่ยวกับผู้เฒ่า

Socail Like & Share

คำพังเพยเกี่ยวกับผู้เฒ่าผู้แก่ก็มีอยู่ หลายคำเหมือนกัน แต่ในที่นี้จะยกมากล่าวเพียง ๒ คำคือ “ถอนหงอก” อันว่าหงอกคือผมขาวบนศีรษะเป็นเครื่องหมายถึงความมีความคิดที่ดีและรอบคอบ คนแก่คนไหนคิดไม่รอบคอบ คิดไม่ดี ทำให้ผู้น้อยเสียหาย คนอื่นเขามักจะพูดว่าเดี๋ยวก็ถูกวัยชราถอนหงอกหมายถึงว่าเอาเครื่องหมายของความเป็นผู้เฒ่าออกเสียเถอะ เพราะไม่มีความคิดอย่างผู้เฒ่าผู้แก่นั่นเอง

อีกคำหนึ่งเจ็บแสบกว่าคำแรก คือคำว่า “เฒ่าหัวงู” หมายความว่าคนสูงอายุที่เห็นว่าน่าเคารพนับถือนั้น คิดไม่ซื่อกับเด็กสาว จึงเรียกว่าเฒ่าหัวงู ทำไมจึงเรียกเฒ่าหัวงูก็ไม่ทราบ น่าจะเป็นว่าในสมองของชายผู้เฒ่าชนิดนี้ มีแต่ความคิดที่จะทำลายเด็กสาวเหมือนงูมีความคิดที่จะขบกัดตัดชีวิตนั่นเองก็เป็นได้

เรื่องของผู้เฒ่าอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผู้ตักเตือนกันไว้มาก ก็คือผู้เฒ่าที่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของรัฐหรือเอกชนก็ตาม เมื่อจะเกษียณอายุนั้น ท่านว่าอย่านึกแต่สะสมเงินทองอย่างเดียว ต้องสะสมความดีและเพื่อนฝูงไว้ด้วย เพราะคนเราเมื่อมีอำนาจอยู่นั้น ข้าทาสบริวารที่คอยแวดล้อมมีมากมาย อย่างที่ท่านสุนทรภู่กล่าวไว้ว่า “อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก” ครั้นหมดอำนาจวาสนาแล้วแม้จะมั่งมีเงินทอง บริษัทบริวารที่เคยอาศัยบารมีของเราทำมาหากินอยู่นั้น ก็มักจะพลอยหายหน้าหายตาไปด้วย เหมือนหนึ่งต้นไม้ที่ปราศจากผล นกหกที่เคยมาเกาะกินส่งเสียงอยู่เจื้อยแจ้วก็หายหน้าหายตาไปหมด เว้นไว้แต่คนนั้นจะสะสมความดีไว้มาก ไม่ข่มเหงเบียดเบียนรังแกใคร ถึงหมดอำนาจวาสนาไปแล้ว บุญหรือคุณงามความดียังมีอยู่ ผู้คนก็มักจะไม่ทอดทิ้ง ยังคงให้ความเคารพนับถืออยู่เพราะความดีอันนั้น

อีกอย่างอนึ่ง สิ่งที่คนเราจะต้องสะสมไว้เมื่อหมดหน้าที่การงานประจำ ก็คืองานอดิเรก เพราะคนเรานั้นจะอยู่นิ่งเฉยโดยไม่ทำงานไม่ได้ ถ้าใครขืนนั่งกินนอนกิน ไม่กี่วันก็ต้องไปสนทนากับยมพบาลเป็นแน่ ดังนั้นเราจึงต้องหางานให้ตัวเองทำเพื่อความเพลิดเพลินในภายแก่ด้วย จะเป็นงานการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ดีทั้งนั้น

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี