ปริณายกรัตนะ (ขุนพลแก้ว)

Socail Like & Share

พระยามหาจักรพรรดิราชนั้น ทรงมีพระโอรส ๑,๐๐๐ พระองค์ พระโอรสเหล่านั้นทรงมีพระสิริโฉมสง่างามยิ่ง ทั้งทรงมีพระปรีชาสามารถแกล้วกล้า อาจหาญทุกพระองค์ ส่วนพระราชโอรสองค์ใหญ่ ทรงมีพระปรีชาขุนพลแก้วสามารถเฉลียวฉลาดกว่าพระโอรสองค์อื่นๆ ทั้งนี้ก็ด้วยพระบุญญาบารมีของพระยามหาจักรพรรดิราชที่ได้ทรงบำเพ็ญมาแต่ชาติปางก่อน จึงทรงมีแก้วคู่พระบารมีอีกประการหนึ่ง คือขุนพลแก้ว อันได้แก่ พระราชโอรสแก้ว พระราชโอรสแก้ว นั้นทรงมีพระปรีชาสามารถมาก ทรงหยั่งรู้จิตใจของคนอื่นได้ ทรงรู้คนดีคนชั่ว แม้จะอยู่ไกลถึง ๑๒ โยชน์ ก็ทรงหยั่งรู้ความรู้สึกนึกคิดของทุกคนทีเดียว

พระองค์ทรงมีพระประสงค์จะทรงปฏิบัติราชกิจแทนพระราชบิดา จึงเสด็จเข้าเฝ้าแล้วทรงกราบทูลว่า

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป งานบริหารราชการแผ่นดินและพระราชกรณียกิจ อื่นใดของพระราชบิดา พวกข้าพระองค์ขอดำเนินการจัดทำแทนตามความรู้ ความสามารถให้ถูกต้องชอบธรรมตามพระราชประเพณี มิให้เป็นที่ขัดเคืองพระราชหฤทัย ขอจงทรงพระเกษมสำราญเสวยสุขทุกประการเถิด

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พระยามหาจักรพรรดิราชมิได้ทรงกังวล พระทัยในราชการบ้านเมืองและพระราชกิจทุกอย่าง เพราะพระราชโอรสแก้ว ทรงบริหารการบ้านการเมืองและทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่างพระเนตรพระกรรณ รัตนะคือแก้วอันประเสริฐสำหรับประดับพระบุญญาบารมีของพระยามหาจักรพรรดิราชผู้มาก ก็มีครบถ้วนทั้ง ๗ ประการดังกล่าวมาโดยลำดับแล้วนั้น

พระยามหาจักรพรรดิราชทรงเป็นประมุขแห่งคนทั้งหลายในพื้นแผ่นดิน ทั้ง ๔ ทวีป ซึ่งมีทวีปเล็ก ๒,๐๐๐ ทวีปเป็นบริวาร ภายในขอบเขตจักรวาลนี้ พระองค์ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมทุกเวลา ผู้ที่ตั้งอยู่ในพระโอวาทคำสั่งสอนของพระองค์ เมื่อสิ้นชีวิตลงจะได้ไปเกิดในสวรรค์ ส่วนผู้ไม่ตั้งอยู่ในพระบรมราโชวาท มีใจบาปหยาบช้าไม่มีศีลธรรมนั้น พระองค์ไม่ทรงโปรดปรานและตรัสเจรจาด้วยเลย

ตราบใดที่พระยามหาจักรพรรดิราชยังทรงพระชนม์อยู่ กงจักรแก้ว ก็ยังคงสถิตอยู่ประดับพระบารมีอยู่ตราบนั้น ไม่คลาดเคลื่อนลอยไปไหนเลย แต่เมื่อใดพระยามหาจักรพรรดิราชเสด็จสวรรคต กงจักรแก้วนั้นจึงจะเคลื่อนจากเรือนแก้วที่อยู่ลงสู่ท้องมหาสมุทรซึ่งเคยสถิตอยู่แต่เดิม แก้วคู่พระบารมีของพระยามหาจักรพรรดิราชจะเคลื่อนจากพระยามหาจักรพรรดิราช ในกรณีต่อไปนี้ คือ ก่อนพระยามหาจักรพรรดิราชจะเสด็จสวรรคต ๗ วัน ก่อนพระยามหาจักรพรรดิราชจะเสด็จออกผนวช ๗ วัน ก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ๗ วัน

เมื่อใดพระยามหาจักรพรรดิราชเสด็จอุบ้ติขึ้นมาอีก กงจักรแก้วก็จะขึ้นจากท้องมหาสมุทรไปเป็นแก้วคู่พระบารมีของพระองค์เหมือนดังแต่ก่อนมา เมื่อจักรแก้วซึ่งเป็นผู้นำของแก้วคู่พระบารมีทั้งหลายคลาดเคลื่อนลอยจากพระยามหาจักรพรรดิราชไปแล้ว แก้วคู่พระบารมีอื่นๆ ก็มีอันจากไปเสื่อมไปตามลำดับ เช่น ช้างแก้วตระกูลอุโบสถหรือช้างแก้วตระกูลฉัททันต์ก็จะกลับคืนไปสู่ตระกูลของตนตามเดิม ทั้งม้าแก้วตระกูลพลาหกก็กลับคืนไปอยู่ในตระกูลของตนตามเดิมเหมือนกัน ทั้งแก้วมณีพร้อมด้วยแก้วบริวาร ๘๔,๐๐๐ ชนิด ก็กลับคืนไปสู่เขาพิบูลบรรพตตามเดิม ส่วนพระนางแก้วนั้นถ้าพระนางเสด็จมาแต่อุตตรกุรุทวีปพระนางก็จะเสด็จกลับคืนสู่อุตตรกุรุทวีปอย่างเดิม แต่ถ้าพระนางแก้วนั้นเสด็จอุบัติในแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่นี้ รัศมีที่เคยแผ่ซ่านออกจากพระวรกายของพระนางก็จะดับสูญหายไปสิ้น จะทรงมีผิวพรรณเหมือนหญิงสามัญทั่วไป

ส่วนขุนคลังแก้วซึ่งแต่ก่อนเคยมองเห็นหรือได้ยินสิ่งที่อยู่ไกลได้ก็กลับ มองไม่เห็นหรือได้ยินไม่ได้ไกลดังแต่ก่อนหรือแม้แต่จะคิดอยากได้สิ่งใดก็จะไม่ได้สมใจนึกเหมือนแต่ก่อนอีก ทั้งขุนพลแก้ว คือ พระราชโอรสแก้ว ซึ่งแต่ก่อนทรงเฉลียวฉลาดเฉียบแหลมมากก็กลับลดน้อยลง ทรงไม่สามารถหยั่งรู้จิตใจของใครได้อีกเลย แต่บางครั้งพระราชโอรสแก้วนั้นทรงมีพระบุญญาภินิหาร และทรงมีพระบรมเดชานุภาพมาก ทรงได้เป็นพระยามหาจักรพรรดิราชสืบแทนพระราชบิดา ก็จะทรงหยั่งรู้ธรรมอันประเสริฐทุกอย่างเช่นเดียวกับพระราชบิดา

เมื่อพระยามหาจักรพรรดิราชสวรรคตแล้ว พระบรมศพได้รับการ ชะโลมด้วยกระแจะจวงจันทน์อันหอม มัดตราสังด้วยผ้าขาวเนื้อละเอียด แล้วนำสำลีอย่างดีที่ตีได้ร้อยครั้งมาห่อชั้นหนึ่งใช้ผ้าขาวอันละเอียดมาห่อทับอีกชั้นหนึ่ง แล้วนำสำลีอันละเอียดบริสุทธิ์มาห่อทับอีกชั้นหนึ่ง ห่อสลับกันอยู่อย่างนั้น จนถึง ๑,๐๐๐ ชั้น คือห่อด้วยผ้า ๕๐๐ ชั้น ห่อด้วยสำลี ๕๐๐ ชั้น นำนํ้าหอมซึ่งอบได้ ๑๐๐ ครั้งมาสรงพระบรมศพ เสร็จแล้วจึงอัญเชิญพระบรมศพบรรจุไว้ ในโกศทองประดับด้วยหินดำถมอมีลวดลายและสีสันต่างๆ งดงามละเอียดและ ประณีตยิ่งนัก

อัญเชิญพระบรมศพขึ้นสู่เชิงตะกอน เพื่อถวายพระเพลิงด้วยแก่นจันทน์ และกฤษณาทั้งห้า บูชาด้วยข้าวตอกดอกไม้มากมาย ครั้นถวายพระเพลิงแล้ว ชาวพระนครจึงนำพระอัฐิธาตุไปบรรจุไว้ในเจดีย์ที่ก่อไว้ในทางสี่แพร่งกลางใจเมือง เพื่อให้คนทั้งหลายได้ไปกราบไหว้สักการบูชา ผู้ใดได้กราบไหว้บูชา ครั้นตายไปจะได้ไปเกิดในสวรรค์เหมือนได้กราบไหว้สักการบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ แต่ผู้ที่กราบไหว้บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์อาจจะได้รับสมบัติ ๓ ประการ คือ มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ และนิพพานสมบัติ ส่วนผู้ที่กราบไหว้สักการบูชาพระยามหาจักรพรรดิราชอาจจะได้สมบัติเพียง ๒ อย่าง คือ มนุษยสมบัติและสวรรคสมบัติเท่านั้นไม่สามารถได้นิพพานสมบัติ โดยเหตุที่พระยามหาจักรพรรดิราชยังทรงเป็นปุถุชนอยู่นั่นเอง

ถึงแม้พระยามหาจักรพรรดิราชทรงมีพระบุญญาเดชานุภาพมาก ทรงมี พระราชอำนาจเหนือข้าศึกศัตรู ทรงสามารถปราบได้ทั่วทั้ง ๔ ทวีป พระองค์ ก็ยังเสด็จสวรรคต ไม่ทรงพระชนม์ชีพยั่งยืนอยู่ได้ตลอดกาล ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากกิเลสและกองทุกข์ พระองค์ก็จะทรงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้อยู่ตราบนั้น แต่เมื่อพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ได้บรรลุธรรมถึงพระนิพพานแล้ว จึงจักพ้นจากทุกข์ในวัฏสงสารนี้ได้

คณะทำงานโครงการวรรณกรรมอาเซียน