การศึกษาเรื่องจิต

Socail Like & Share

การฝึกจิต

การศึกษาเรื่องจิตนั้นมีเรื่องสำคัญแยกออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ การฝึกจิต และ การใช้อำนาจจิต

๑. การฝึกจิต ทำเพื่อให้เกิดความสงบ มีความสุข สบายปลอดโปร่งในด้านจิตใจ และความสงบนี้เองจะทำให้เกิดอำนาจจิตหรือพลังจิต (กำลังภายใน) สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ นั้นอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง ทำให้เกิดมีปัญญารู้เห็นสิ่งต่างๆ ตามสภาพตามความเป็นจริง ช่วยขัดเกลาให้จิตสะอาดขึ้นจนถึงจิตบริสุทธิ์ได้

๒. การใช้อำนาจจิต ให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ในทางโลก เช่นวิชาเหนียวคงใช้ทางป้องกันอันตรายหรือใช้ทางรักษาโรคก็ได้ วิชาดับพิษร้อนเช่นนํ้ามันเดือด เราส่งอำนาจจิตลงไปทำให้เย็น ขณะกำลังเดือดอยู่ก็เอามือล้วงดูได้ตักกินได้คนอื่นมาล้วงหรือตักกินก็ได้หรือเหล็กเผาไฟจนร้อนแดงเอามือจับได้ เอามือกอบขึ้นได้ เมื่อคนหนึ่งดับพิษร้อนแล้ว คนอื่นๆ ก็จับเหล็กแดงนั้นได้ วิชาดับพิษร้อนนี้ก็ใช้กันอันตราย เช่นเวลาวิ่งฝ่าออกจากไฟที่กำลังไหม้บ้านหรือใช้ดับพิษร้อนของคนที่ถูกน้ำร้อนลวก ถูกไฟไหม้ให้หายจากความทุกข์ทรมานได้ การใช้อำนาจจิตในการทำงาน การรักษาโรคต่าง ๆ การสะกดจิต การทำให้เกิดความจำดี การป้องกันภัยอันตราย การสะเดาะกุญแจ ดูทางใน การแปลงธาตุ การหายตัว การเพิ่มความ สามารถในการทำงาน ทำอาชีพให้ได้ผลดีขึ้น เหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องการใช้อำนาจจิตและมีตำรามีวิธีทำ มีครู สามารถสอนได้ทำได้ดูได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเล่นกลหรือการสะกดให้เห็นไปเอง แต่หมายถึง การทำได้จริงด้วยอำนาจจิตอำนาจคุณพระ ซึ่งเรียกว่า “พลังจิต”

จิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความรอบคอบ ความถี่ถ้วนและความตั้งใจจริงจัง การเรียนฝึกจิต หรือใช้อำนาจจิตจึงจะก้าวหน้าไปได้ดี ก้าวหน้าไปได้เร็ว แต่ขออย่าได้ท้อถอย เพราะการเรียนใช้อำนาจจิตขั้นต้น และการฝึกให้ได้สมาธิขั้นต้นนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนเรียนได้สำเร็จในเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในวันเดียวก็เรียนรู้และทำได้เองหลายอย่าง

การเรียนใช้อำนาจจิต ทำเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางโลก หรือส่งเสริมความก้าวหน้าให้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังมุ่งมั่นที่จะให้ได้ประโยชน์ทางธรรม คือ ฝึกจิตให้เกิดสมาธิขั้นต้นได้เพื่อให้รู้เท่าทันธรรมชาติทั้งปวงพอสมควร และกล่อมเกลาจิตใจให้มั่นคงสุขุมยึดความดีศีลธรรมเป็นหลักทางใจได้ดีขึ้น เป็นบันไดให้ก้าวไปสู่สมาธิขั้นกลาง และขั้นสูงต่อไปตามความปรารถนา ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการจะฝึกใช้อำนาจจิตจะฝึกมุ่งไปสู่ความสุขสบายทางจิตใจ หรือทำใจให้สะอาดหมดจดก็ตั้งใจฝึกสมาธิวิปัสสนา เพื่อ สำเร็จประโยชน์สมดังความปรารถนาต่อไป แต่ควรจะเข้าใจให้ถูกต้องว่าการใช้อำนาจจิตเป็นนั้นไม่ต้องแบกหามไว้รู้แล้วไม่ใช้ จะใช้เมื่อมีความจำเป็น ดังนี้ก็ทำได้ และจะเป็นการช่วยส่งเสริมให้ฝึกสมาธิวิปัสสนาได้มั่นคงยิ่งขึ้น เพราะรู้จักวิธีควบคุมจิตได้ดีกว่าธรรมดา และรู้วิธีใช้พลัง ในการป้องกันอันตราย ป้องกันภูตผีได้ทำให้กล้าที่จะฝึกจิตอย่างจริงจัง ไม่ระแวงไม่กังวลที่จะมีอันตรายใดๆ ผู้เขียนวิทยาศาสตร์ทางใจได้เปิดสอนให้ฝึกสมาธิ-วิปัสสนา ถูกวิธี ได้ผลเร็ว ฝึกให้ใช้พลังจิตให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ได้เองหลายอย่างในวันเดียวกัน รับสอนทุกศาสนา

คำสอนพระพุทธเจ้าและในพระไตรปิฎกมีสอนทั้งปัญญาวิมุติมุ่งสู่นิพพาน และเจโตวิมุติ ฝึกหนักไปทางสมาธิจนได้ฌานแสดงฤทธิ์ได้ แล้วจึงฝึกหนักไปทางนิพพาน บางศาสนาไม่ยอมไหว้พระก็ให้ถือเป็นครูเป็นอาจารย์ เขาก็เรียนได้ทดลองได้ รักษาได้ผลทั้งหญิงและชาย

ที่มา:ชม  สุคันธรัต