อักษรคู่อักษรเดี่ยว

อักษรต่ำยังแบ่งออกเป็น ๒ พวกอีก ดังนี้
๑. อักษรคู่ คืออักษรต่ำที่มีเสียงเป็นคู่กับอักษรสูงมี ๑๔ ตัว จัดเป็นคู่ได้ ๗ คู่ ดังนี้

อักษรต่ำ

อักษรสูง

ค ฅ ฆ ข ฃ
ช ฌ
ศ ษ ส
ฑ ฒ ท ธ ฐ ถ
พ ภ

อักษรต่ำกับอักษรสูงที่เป็นคู่กันนี้ ผันไม่ได้ครบเสียงวรรณยุกต์ทั้ง ๕ อย่างอักษรกลาง ต้องใช้วิธีเอาเสียงอักษรที่เป็นคู่กันเข้าช่วยจึงผันได้ครบ ๕ เสียง ดังนี้ คา ข่า ค่า,ข้า ค้า ขา

๒. อักษรเดี่ยว คืออักษรต่ำ พวกที่ไม่มีเสียงอักษรสูงเป็นคู่กันมี ๑๐ ตัว คือ ง ญ ณ น ม ย ร ล ว ฬ  พวกนี้ไม่มีเสียงอักษรสูงเป็นคู่กันเข้าช่วยให้ผันได้ครบ ๕ เสียงอย่างอักษรคู่ จึงต้องมีวิธีใช้วรรณยุกต์ขึ้นอีกอย่างหนึ่ง คือใช้อักษรกลางหรืออักศรสูงนำ ถ้าอักษรกลางนำก็ผันอย่างเดียวกับอักษรกลาง ดังนี้

กงา (กะ-งา) กง่า กง้า กง๊า กง๋า, กรา (ก๎รา) กร่า กร้า กร๊า กร๋า วิธีนำนี้บางทีก็อ่านเป็น ๒ พยางค์ เช่น กงา อ่านว่า กะ-งา บางทีก็อ่านกล้ำเป็นพยางเดียว เช่น กรา อ่านว่า ก๎รา แต่ถ้าตัว อ นำ ตัว ย ไม่ต้องอ่านออกเสียงตัว อ ดังนี้ อยา อย่า หย้า หย๋า ออกเสียงด้วยตัว ย ตัวเดียวเป็นแต่ผันอย่างอักษรกลางเท่านั้น (อ นำ ย เดี๋ยวนี้มีใช้อยู่โดยมาก ๔ คำเท่านั้น คือ อย่า อยู่ อย่าง อยาก) ถ้าอักษรสูงนำก็อ่านเสียงอักษรสูงดังนี้ ขงา (ขะ-หงา) ขง่า ขง้า, ขรา (ข๎รา) ขร่า ขร้า  แต่ถ้าตัว ห นำ ไม่ต้องออกเสียงตัว ห ออกเสียงอักษรเดี่ยวที่ตามหลังเป็นเสียงจัตวา และผันอย่างอักษรสูง ดังนี้ หงา หง่า หง้า

ด้วยใช้วิธีนำเช่นนี้ อักษรเดี่ยวจึงผันได้ครบทั้ง ๕ เสียง ดังนี้
อยา อย่า อย้า อย๊า อย๋า, งา หง่า ง่า,หง้า ง้า หงา

จงสังเกตไว้ว่า อักษรกลางหรือสูง จะนำและผันให้เสียงเป็นอักษรกลางหรือสูงได้ก็แต่อักษรเดียวพวกเดี่ยว ตัวอื่นถึงจะมีนำบ้างตามภาเดิมก็ไม่ออกเสียงเป็นอักษรนำ เช่น ไผท ต้องอ่าน ผะ-ไท ไม่ใช่ ผะ-ไถ เป็นต้น

แบบหลักวรรณยุกต์

ต่อไปนี้ได้ทำแบบหลักวรรณยุกต์ ตามที่ได้อธิบายมาแล้ว ไว้ให้ดูโดยย่อ ดังนี้

silapa-0017 - Copy

ที่มา:พระยาอุปกิตศิลปสาร