มารยาทของแขกผู้ไปพัก

Socail Like & Share

วิมาลา ได้รับจดหมายเชิญจากเพื่อนเก่า ซึ่งมีข้อความว่า
“ปิดภาคนี้ ทั้งคุณชินกับฉันอยากให้เธอไปพักกับเราสักสองสามอาทิตย์….”

รตีกับชิน มีบ้านชายทะเลไม่ใหญ่นัก เขาทั้งสองมีฐานะปานกลาง และมีลูกชายหญิงสองคน

เมื่อวิมาลาไปพักอยู่กับผู้ใหญ่ที่หัวหิน ซึ่งมีฐานะมั่งคั่ง ก็จะเอากระเป๋าเดินทางไปสองใบ ใส่เสื้อผ้าชุดดีๆ รองเท้าเกินสองคู่ และชุดชายหาดที่ทันสมัย แต่ครั้งนี้เธอหิ้วกระเป๋าติดตัวไปใบเดียว และเอาเสื้อผ้าที่ใส่สบายไปด้วยเท่านั้น

วิมาลาได้ชื่อว่าเป็น แขกที่น่ารัก และมักได้รับเชิญให้ไปพักตามบ้านเพื่อน และญาติทุกวันปิดภาค เธอได้อธิบายแก่ผู้ที่สงสัยเรื่องนี้ว่า
“ถ้าเรามีแขกและอยากให้แขกเขาทำอย่างไรกับเรา เราก็ทำอย่างนั้นกับเขาสิ จะไปยากอะไร”

วิมาลาได้ตอบจดหมายของรตีทันทีที่ไปถึงว่า เธอจะไปด้วยความเต็มใจ เพราะเธอไม่ชอบการโทรศัพท์ หรือฝากบอกไปกับคนอื่น ในตอนท้ายของจดหมายวิมาลาได้เขียนว่า
“ฉันเกือบจะอดใจวันที่จะได้พบเธอและคุณชิน ตลอดจนหลานๆ ต่อไปไม่ไหวแล้วละซี”

เมื่อวิมาลาไปถึงบ้านท้ายไร่ที่ศรีราชาของรตี ขณะรตีเข้าครังไปดูอาหารเธอได้เข้าไปจัดข้าวของเสื้อผ้าอย่างเรียบร้อย วางรองเท้าไม่ให้เกะกะอยู่มุมหนึ่ง วางกระเป๋าบนหลังตู้ใหญ่ ของใช้สำหรับชำระล้างหน้าตาใส่ขันรวมไว้ใกล้อ่างล้างมือ บนเตียงที่ปูผ้าคลุมไว้เธอไม่เอาเสื้อผ้าลงไปวาง นอกจากชุดนอนสะอาดๆ ชุดเดียว เพราะถ้าเป็นเสื้อผ้าสีเข้มๆ อาจทำให้สีอ่อนๆ ของผ้าคลุมเตียงคล้ำลงได้ และเมื่อยังไม่ถึงเวลานอนเธอก็จะไม่นั่งลงบนเตียง

แขกที่ดีจะสังเกตการณ์จัดระเบียบบ้านของเจ้าของว่าเป็นคนเรียบร้อยแค่ไหน หากเป็นคนมีระเบียบ ทุกอย่างก็จะอยู่ในที่ของมันไม่เกะกะ และในฐานะผู้ได้รับเชิญ ก็จะต้องทำให้ได้เท่ากับเจ้าของบ้านด้วย ถึงแม้ปกติแล้วท่านจะไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย แต่ก็ต้องพยายามทำให้ได้ อย่าทำให้เลอะเทอะเป็นที่น่ารังเกียจ ไม่ต้องให้เขาต้องตามคอยเก็บของให้ ต้องวางให้เป็นที่เป็นทาง ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการเสียชื่อเสียเปล่าๆ

ห้องน้ำที่สะอาดจะบ่งบอกถึงความสะอาดของคนในบ้าน เช่นเดียวกับมือและเล็บที่สะอาด ก็บอกนิสัยของเจ้าของได้

ก่อนจะออกจากห้องน้ำทุกครั้ง ต้องดูให้ทั่วว่า สะอาดเรียบร้อยแล้วหรือยัง ไม่ปล่อยให้น้ำนองพื้น มีรอยโคลนสกปรก หรือยังไม่สะอาดแล้วเดินออกไปไม่สนใจ

รตีพูดว่า
“ฉันไม่ชวนยายนั่นมาอีกละเธอ หนก่อนเอาผ้าเช็ดตัวของฉันไปใช้”

แม้แต่ลูกๆ ของรตี ก็ต้องแยกกันใช้ผ้าขนหนูไม่ให้ปะปนกัน

วันรุ่งขึ้น ก่อนลงไปชายหาด วิมาลาก็จัดเตียงก่อน ตกตอนเย็นรตีก็ห้ามว่า
“ทีนี้อย่าทำนะ ปล่อยไว้เถอะ”

วิมาลายืนกรานจะทำเอง เพราะรู้ดีว่า รตีต้องทำงานบ้านเอง และไม่มีคนใช้

รตีพูดว่า
“แต่เธอมาพักผ่อนจ้ะ ฉันไม่ต้องการให้เธอทำอะไรสักอย่าง”

วิมาลาตอบเลี่ยงอย่างฉลาดว่า
“งั้นเราทำกันทั้งสองคน เสร็จเร็วด้วย และฉันก็อยากช่วยเธอมั่งนิดๆ หน่อยๆ”

ทุกๆ เช้า ลูกๆ ของรตี จะแย่งกันเข้าห้องน้ำ กว่าจะเสร็จหมดทุกคนทำให้วิมาลาต้องคอยนานมาก เธอจึงต้องตื่นเช้ากว่าใครๆ แล้วเข้าห้องน้ำเสียให้เรียบร้อย จึงออกไปแต่งตัว เธอแจ่มใสอยู่ในเสื้อผ้าชุดสะอาดกว่าคนอื่นๆ จะเสร็จกัน ในขณะที่หัวยุ่งหน้ายุ่งจากที่นอน วิมาลาไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น หรือเดินออกไปรอบๆ บ้านทั้งๆ ที่ใส่เพียงเสื้อคลุม หรือขณะที่รตีกำลังวุ่นอยู่กับงานบ้านเธอก็ไม่ไปคุยหัวเราะกับชิน

รตีเคยบ่นสามีว่า
“ชอบทิ้งขี้บุหรี่ทั้งบ้าน หาที่เขี่ยให้ก็ไม่เห็นเขี่ย”

วิมาลาเคยแย้งขึ้นว่า
“โธ่! ช่างเถอะ อยากสูบก็ให้เขาสูบไปเถอะน่าเธอ”

เมื่อสัปดาห์หนึ่งสิ้นสุดลงวิมาลาก็จากไป ในห้องที่เธอพักเรียบร้อย ไม่มีข้าวของตกหล่นหลงลืมไว้ให้เป็นภาระเจ้าของบ้านต้องคอยส่งคืนตามไปให้ ในวันรุ่งขึ้น ในฐานะแขกที่ดี วิมาลาก็ได้เขียนจดหมายสั้นๆ เพื่อขอบใจ รตีกับชินไว้ สำหรับการพักผ่อนที่บ้านชายทะเลของเขา ที่ทำให้เธอได้รับด้วยความสุขใจ

ที่มา: จากหนังสือเรื่อง มรรยาทงาม ของ ผกาวดี อุตตโมทย์