อาวุธ:อีแดงพะเลิง

อีแดงพะเลิงไม่ใช่ช้าง

ในกระบวนศิลาจารึกของกรุงสุโขทัยด้วยกันแล้ว ไม่มีจารึกหลักใดที่จะมีความสำคัญ สนุกสนาน ตื่นเต้น โลดโผน เท่าศิลาจารึกหลักที่ ๒ ที่มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า ศิลาจารึกวัดศรีชุม

ศิลาจารึกหลักนี้ได้เผยโฉมหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทยให้มีอายุสูงย้อนหลังขึ้นไปอีกหนึ่งราชวงศ์  โดยได้เปิดเผยให้ทราบว่าก่อนที่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จะได้สถาปนาราชวงศ์พระร่วง  หรือราชวงศ์บางยางขึ้นที่กรุงสุโขทัยนั้น  ประเทศไทยในครั้งกระนั้นมีราชวงศ์ของพ่อขุนศรีนาวนัมถมปกครองอยู่ก่อนแล้ว

ศิลาจารึกหลักนี้เปิดเผยให้เราได้รู้จักพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด  พระราชบุตรของพ่อขุนศรีนาวนัมถมและเป็นพระราชบุตรเขยของผีฟ้าเมืองศรีโสธรปุระ พระราชบิดาของนางศิขรมหาเทวี  และพ่อขุนผาเมืองเป็นผู้อภิเสกพ่อขุนบางกลางหาว เจ้าเมืองบางยางพระสหายของพระองค์  ให้ขึ้นเป็นประมุขของชนชาติไทย  โดยให้ทรงใช้พระนามศรีอินทรบดิทราทิตย์ ซึ่งเป็นพระนามของพระองค์เองสืบไป

ศิลาจารึกหลักนี้  ได้กล่าวเน้นถึงลูกพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ผู้หนึ่งชื่อพ่อขุนรามราชปราชญรู้ธรรม ก่อพระศรีรัตน์ในศรีสัชชนาลัยและหลานพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ผู้หนึ่งชื่อธรรมราชา

เนื้อความส่วนใหญ่ในศิลาจารึกหลักที่ ๒ นี้ เป็นเรื่องราวของสมเด็จพระมหาเถรศรีสรัธาราชจุลามุนีศรีรัตนลังกาทีปมหาสามิเป็นเจ้า  ผู้เป็นหลานของพ่อขุนผาเมือง และเป็นบุตรของพระยาคำแหงพระราม แทบทั้งสิ้น

ในศิลาจารึกหลักนี้มีข้อความอยู่ตอนหนึ่งในด้านที่หนึ่งบรรทัดที่ ๘-๑๘ ซึ่งไม่ค่อยมีความสำคัญนัก  เป็นเรื่องราวกล่าวถึงความเก่งกล้าสามารถของพ่อขุนศรีนาวนัมถม  ว่าท่านเป็นผู้สร้างนครสองอัน  อันหนึ่งชื่อนครสุโขทัย อันหนึ่งชื่อนครศรีสัชชนาลัย เนื่องจากท่านเป็นผู้รู้วังช้างแกล้วกล้า

แต่เดิมมาท่านผู้รู้ผู้ใฝ่ใจในการอ่านศิลาจารึกปักใจเชื่อว่า  ท่านพ่อขุนศรีนาวนัมถมท่านขี่ช้างชื่อ อีแดงพะเลิง  เที่ยวปราบบ้านแปรงเมือง ราบคาบจากเมืองแถงตลอดทั่วถึงกรุงสุโขทัย

แม้ท่านผู้รู้หลายท่านจะมีความตะขิดตะขวงใจในวรรคที่ว่า อีแดงพะเลิงใหญ่ประมาณเท่าบาตร  อยู่ตลอดมา  แต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีท่านผู้ใดแสดงความตะขิดตะขวงใจออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้แน่ชัด  จนกระทั่งนายไมเคิล ไรท์  ได้แสดงความกังขาออกมาอย่างชัดแจ้งในเรื่องปริศนาศิลาจารึกวัดศรีชุมที่ลงพิมพ์ในหนังสือศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๒ เล่มที่ ๑(๑๓) ว่า

อีแดงพะเลิงใหญ่ประมาณเท่าบาตรคือใคร? หรือเป็นตัวอะไร?

แม้อีแดงพะเลิง จะไม่มีความสำคัญอะไรมากนัก  แต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญใจอยู่เนือง ๆ และเพื่อที่จะขจัดความรำคาญอันนี้ให้สิ้นไป  จึงขอเสนอให้ทราบไว้ในที่นี้ว่าอีแดงพะเลิงไม่ใช่ช้างหรือสัตว์อื่นใดทั้งสิ้น

ในศิลาจารึกหน้า ๑ บรรทัดที่ ๑๗ ได้จารึกไว้อย่างชัดเจนว่า –หัวช้างด้วยอีแดงพะเลิง  เป็นการชี้ชัดลงไปว่า เวลาที่พ่อขุนนาวนัมถมท่านออกไปทำการรบพุ่งนั้น ท่านมีอาวุธสำคัญชนิดหนึ่งบันทุกไปบนหัวช้าง และอาวุธพิเศษนี้ชื่อว่าอีแดงพะเลิง

ในบรรทัดที่ ๑๘ ก็บอกไว้ชัดเจนว่า อีแดงพะเลองใหญ่ประมาณเท่าบาตร  หาได้บอกว่าช้างที่ท่านขี่ไปนั้นมีหัวโตเท่าบาตรไม่

เมื่ออีแดงพะเลิงไม่ใช่ช้าง แต่เป็นอาวุธที่บันทุกไปบนหัวช้างและมีขนาดโตเท่าบาตรฉะนี้ อีแดงพะเลิงจึงน่าจะเป็นอาวุธจำพวกปืนไฟอย่างแน่นอน

ด้วยความเก่งกล้าสามารถของท่านพ่อขุนศรีนาวนัมถม  ประกอบกับความร้ายแรงของอีแดงพะเลิงนี้เอง  ผีฟ้าเมืองศรีโสธรปุระจึงต้องขอเป็นพันธมิตรอันใกล้ชิด  โดยยอมยกนางศิขรมหาเทวีให้เป็นทองแผ่นเดียวกับ พ่อขุนผาเมืองพระราชบุตรของท่านนั้นเลยทีเดียว

นายแพทย์ถนอมศักดิ์  ถาวรธนสาร

ก. ๓๙ อ.เสนา

พระนครศรีอยุธยา