ประโยคทั้ง ๓ ชนิด คือเอกรรถประโยค และอเนกรรถประโยค และสังกรประโยคที่ได้แสดงมาแล้วโดยลำดับนี้ มิใช่ว่าจะมีในข้อความเรียงกันเป็นลำดับดังแสดงไว้เช่นนั้นเมื่อไร ที่จริงข้อความตอนหนึ่งๆ จะมีประโยคใดๆ สักเท่าไรก็ได้ และไม่จำกัดว่าจะต้องมีประโยคชนิดนั้นชนิดนี้ และอาจจะมีอเนกรรถประโยค และสังกรประโยคเข้าระคนกันเป็นประโยคซับซ้อนกันมากมายก็ได้ นอกจากประโยคที่กล่าวนี้แล้ว ก็มีบทเชื่อมให้ข้อความติดต่อกัน และมิใช่ว่าจะมีบทเชื่อมระหว่างประโยคเท่านั้น แต่อาจจะมีบทเชื่อมระหว่างคำต่อคำ หรือระหว่างวลีต่อวลี ให้ติดต่อกันก็ได้ หรือเชื่อมระคนกันก็ได้ แม้ที่สุดเชื่อมระหว่างข้อความตอนหนึ่งกับอีกตอนหนึ่งก็ได้ ข้อสำคัญของบทเชื่อมเหล่านี้ก็คือทำให้คำก็ดี วลีก็ดี ประโยคต่างๆ ก็ดี ติดต่อเป็นเรื่องเกี่ยวพันกันไปตามนิยมของภาษาที่ใช้กัน แต่การที่เราจะรู้ว่าประโยคต่างๆ ติดต่อกันเป็นประโยคชนิดใดบ้างนั้น เราก็ต้องอาศัยสังเกตบทเชื่อมเป็นหลักสำคัญอยู่ด้วยเหมือนกัน ซึ่งจะอธิบายต่อไป แต่ในที่นี้จะขอรวบรวมประโยคที่ซับซ้อนกันมาอธิบายไว้พอเป็นหลักเสียก่อน ดังต่อไปนี้
ประโยคระคน ตามที่กล่าวมาแล้วในเรื่องอเนกรรถประโยคก็ดี สังกรประโยคก็ดี ซึ่งต่างก็มีเฉพาะแต่เอกรรถประโยคเป็นประโยคย่อยรวมอยู่ในประโยคใหญ่นั้นๆ อย่างเดียวเท่านั้น แต่ความจริงหาเป็นเช่นนี้เสมอไปไม่ กล่าวคือประโยคใหญ่ทั้ง ๒ นี้ จะเป็นประโยคย่อยของประโยคอื่นก็ได้ ดังจะอธิบายต่อไปนี้
(๑) อเนกรรถประโยคระคน หมายถึงอเนกรรถประโยคที่มีส่วนย่อยเป็นอเนกรรถประโยคด้วยกัน และมีส่วนย่อยเป็นสังกรประโยค ดังจะยกตัวอย่างมาให้ดูต่อไปนี้
ก. ส่วนย่อยของอเนกรรถประโยคด้วยกัน คือ
“ถ้าเขาพูดดีต่อเราแต่ไม่ไว้ใจเรา เราก็ควรพูดดีต่อเขา แต่ไม่ควรไว้ใจเขาดุจกัน”
ประโยคนี้มีอันวยาเนกรรถประโยคเป็นประโยครวมยอด และมีประโยคย่อยเป็นพยติเรกาเนกรรถประโยคทั้งคู่ ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคต่อไปนี้
“ตาและยายทำนา แต่ลูกและหลานทำสวน”
ประโยคชนิดนี้มีพยติเรกาเนกรรถประโยคเป็นประโยคใหญ่ และมีประโยคย่อยเป็นอันวยาเนกรรถประโยคทั้งคู่ ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคต่อไปนี้
“ท่านจะให้ผัวเขาทำงานและเลี้ยงเมียเขาด้วย หรือจะให้ผัวเขาทำงาน แต่ไม่เลี้ยงเมียเขา”
ประโยคนี้มีวิกัลป์ปาเนกรรถประโยคเป็นประโยคใหญ่ ประโยคย่อยข้างหน้าเป็นอันวยาเนกรรถประโยค ข้างหลังเป็นพยติเรกาเนกรรถประโยค ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยค ต่อไปนี้
“เขาเป็นพ่อบ้านดี ทั้งปกครองก็ดีด้วย เพราะฉะนั้นลูกและเมียจึงได้รับความสุข”
ประโยคนี้มีเหตวาเนกรรถประโยคเป็นประโยคใหญ่ และประโยคย่อยเป็นอันวยาเนกรรถประโยคทั้งนั้น ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคต่อไปนี้
ตัวอย่างข้างบนนี้ ได้ยกมาให้ดูจนครบชนิดของอเนกรรถประโยคทั้งสี่ เพื่อให้ผู้ศึกษาได้จำไว้เป็นหลักโดยครบถ้วน และต่อไปจะยกมาไว้เพียงประโยคสองประโยคเท่านั้น ให้ผู้ศึกษาเข้าใจเอาเองตามตัวอย่างข้างบนนี้
ข. ส่วนย่อยเป็นสังกรประโยค คือ
“สามีรักเพื่อนชายที่สอพลอ และภรรยาก็รักเพื่อนชายที่สอพลอตามกัน” ประโยคนี้มีอันวยาเนกรรถประโยคเป็นประโยคใหญ่ และมีสังกรประโยคเป็นส่วนย่อย ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคต่อไปนี้
“ท่านเป็นคนพาลฉันไม่ชอบ แต่ชอบคำสัตย์ที่ท่านกล่าวโดยกล้าหาญ” ประโยคนี้มีพยติเรกาเนกรรถประโยค เป็นประโยคใหญ่ และมีสังกรประโยคเป็นส่วนย่อย แต่เป็นสังกรประโยคที่มีอนุประโยคต่างชนิดกัน ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคย่อยต่อไปนี้
“เขาป่วยจนเราตกใจบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเราไม่อยู่ จึงควรให้หมอดูแลเขา” ประโยคนี้มีเหตวาเนกรรถประโยคเป็นประโยคใหญ่ และมีประโยคย่อยเป็นสังกรประโยคทั้งคู่ ดังบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคดังต่อไปนี้
ค. ส่วนย่อยเป็นประโยคระคนซับซ้อนกัน คือ หมายความว่า อเนกรรถประโยคที่มีส่วนย่อยเป็นประโยคระคนต่างๆ คือเป็นอเนกรรถประโยคเชื่อมกับอเนกรรถประโยคบ้าง หรือเชื่อมกับสังกรประโยคบ้าง หรือเป็นอเนกรรถประโยคเชื่อมกับสังกรประโยคบ้าง หรือเป็นประโยคย่อยชนิดต่างๆ เชื่อมระคนกันบ้าง ซึ่งรวมอยู่ในอเนกรรถประโยคเดียวกัน ดังจะยกตัวอย่างพร้อมกับบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคมาไว้ พอเป็นตัวอย่างที่สังเกตต่อไปนี้
ประโยคย่อยเป็นเอกรรถ เชื่อมกับอเนกรรถ เช่น
“ตาสีเป็นคนขี้เหนียว เพราะฉะนั้นมิตรและญาติเขาจึงไม่คบแก”
บอกสัมพันธ์ชนิดประโยค ดังนี้
ประโยคย่อยเป็นเอกรรถ เชื่อมกับสังกร เช่น
“พระราชาองค์นี้ทรงทศพิธราชธรรมดียิ่ง ดังนั้นราษฎรจึงรักพระองค์จนเขาสละชีพเพื่อพระองค์ได้” บอกสัมพันธ์ชนิดประโยคดังนี้
ประโยคย่อยเป็นอเนกรรถ เชื่อมกับสังกร เช่น
“ยายและตามีความดีโดยมาก แต่แกก็ยังมีไม่ดีซึ่งเราควรติอยู่บ้าง”
ประโยคย่อยเป็นชนิดต่างๆ ระคนกัน เช่น
“เขาทำการซึ่งเขาเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ชาติ อันเป็นที่รักของเขา แต่ไม่เป็นประโยชน์แก่เขา เช่นนี้เราจึงควรยกย่องเขายิ่งกว่าคนที่ทำการ เพราะเห็นแก่ตนด้วย และเห็นแก่ชาติด้วย” ประโยคนี้มีประโยคใหญ่ “เขาทำการ…เช่นนี้เราจึงควรยกย่องเขา” ประโยคนอกจากนั้นเป็นส่วนย่อยทั้งนั้น ดังบอกสัมพันธ์ต่อไปนี้
๑การฝึกหัดวิธีบอกสัมพันธ์ชนิดอเนกรรถประโยคระคนที่ยุ่งยากเช่นนี้ ควรแนะนำให้เขียนประโยคทั้งหมด แล้วให้ทำวงเล็บประดยคแต่งลงไปเป็นชั้นๆ อย่างวงเล็บเลขคณิตหรือพีชคณิต และให้ชื่อวงเล็บชั้นในก่อน แล้วจึงให้ชื่อวงเล็บถัดออกมาข้างนอกเป็นลำดับ และไม่ควรจะตั้งต้นสอนประโยคซับซ้อนมากมายเช่นนี้ก่อน ควรจะเพิ่มสอนให้ซับซ้อนขึ้นทีละน้อยๆ เพื่อให้ชำนาญขึ้นเป็นลำดับ
อเนกรรถประโยคที่มีส่วนย่อยซับซ้อนกันอยู่เช่นนี้ ย่อมมีรูปต่างๆ กันแล้วแต่โวหารของผู้แต่ง ให้ผู้ศึกษาสังเกตตัวอย่างข้างต้นนี้เป็นหลัก
๒. สังกรประโยคระคน สังกรประโยคก็มีส่วนย่อย คือ อนุประโยคเป็นชนิดต่างๆ ซับซ้อนกันได้อย่างเดียวกับอเนกรรถประโยคเหมือนกัน ดังจะชักตัวอย่าง และบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคไว้ให้เห็นพอเป็นที่สังเกตต่อไปนี้
ก. นามานุประโยค นอกจากจะเป็นเอกรรถประโยคดังกล่าวแล้วนั้น ย่อมเป็นอเนกรรถประโยค หรือสังกรประโยคก็ได้ เช่น
“เขาด่าท่านและท่านด่าตอบเขา เช่นนี้ไม่ดีเลย” บอกสัมพันธ์ดังนี้
“ฉันไม่ชอบเด็กที่เป็นนักเรียนประพฤติเช่นนี้”
ข. คุณานุประโยค ก็เป็นอเนกรรถประโยค หรือสังกรประโยคได้เช่น
“คน ที่รักดีแต่ไม่ประพฤติดี นั้น ย่อมมีมาก”
“คน ที่ตายเพราะปากไม่ดีนั้น มีมาก”
ค. วิเศษณานุประโยค ก็เป็นอเนกรรถประโยค หรือสังกรประโยคได้ดุจกัน เช่น
“เขามา เมื่อฉันนอนแล้ว แต่ยังไม่หลับ”
“ขโมยเข้ามาในบ้านเราได้ เพราะคนยามที่เฝ้าประตูเผลอ”
ฆ. สังกรประโยคที่ซับซ้อนกัน ตัวอย่างข้างบนนี้คัดมาให้ดูเป็นอย่างๆ พอเป็นหลักเท่านั้น ที่จริงสังกรประโยคย่อมมีอนุประโยคระคนกันซับซ้อนเช่นเดียวกันกับอเนกรรถประโยคที่แสดงมาแล้วเหมือนกัน ดังจะทำตัวอย่างและบอกสัมพันธ์ชนิดประโยคไว้ให้ดูพอเป็นที่สังเกตต่อไปนี้
“ผู้ใหญ่ ที่พูดแต่ปากแต่เขาทำตามคำที่พูดไม่ได้นั้นย่อมเลวกว่าเด็ก ซึ่งพูดว่าทำไม่ได้แต่เขาทำได้มาก”
สังกรประโยคนี้มีสังกรประโยคใหญ่ชนิดต่างๆ ประกอบซับซ้อนกัน ดังได้บอกสัมพันธ์ชนิดประโยคไว้ให้ดูต่อไปนี้
และยังมีรูปอื่นๆ อีกมาก ควรสังเกตตัวอย่างนี้เป็นหลัก
ที่มา:พระยาอุปกิตศิลปสาร