เพลงยาวถวายโอวาท มีความยาวประมาณ ๑ เล่มสมุดไทย สุนทรภู่แต่งเมื่อปีพ.ศ. ๒๓๗๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ขณะบวชอยู่ ณ วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) กรุงเทพมหานคร อายุ ๔๕ ปี โดยแต่งเป็นเรืองถวายโอวาทและกราบทูลลาเจ้าฟ้ากลาง และเจ้าฟ้าปิ๋ว ผู้เป็นอนุชาเจ้าฟ้าอาภรณ์ และเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ในเพลงยาวเรื่องนี้มีเนื้อความแสดงความอาลัยเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว รวมทั้งระลึกถึงพระคุณที่ได้ทรงอุปการะตนมาตอนต้นเรื่อง สุนทรภู่บอกจุดประสงค์ในการแต่งว่า
ควรมิควรจวนจะพรากจากสถาน
จงเขียนความตามใจอาลัยลาน ขอประทานโทษาอย่าราคี
ด้วยขอบคุณทูลกระหม่อมถนอมรัก เหมือนผัดพักตร์ผิวหน้าเป็นราศี
เสด็จมาปราศรัยถึงในกุฎี ดังวารีรดซาบอาบละออง
ทั้งการุณสุนทราคารวะ ถวายพระวรวงศ์จำนงสนอง
ขอพึ่งบุญมุลิกาฝ่าละออง พระหน่อสองสุริย์วงศ์ทรงศักดา
ด้วยเดี๋ยวนี้มิได้รองละอองบาท จะนิราศแรมไปไพรพฤกษา
ต่อถึงพระวสาอื่นจักคืนมา พระยอดฟ้าสององค์จงเจริญ
เพลงยาวถวายโอวาทนี้มีความเป็นคติอยู่หลายตอน ขอคัดมาเสนอดังนี้
-๑-
ขอพระองค์ทรงยศเหมือนคชบาท อย่าให้พลาดพลั้งเท้าก้าวถลำ
ระมัดโอษฐ์โปรดให้พระทัยจำ จะเลิศล้ำลอยฟ้าสุราลัยฯ
-๒-
หนึ่งนักปราชญ์ราชครูซึ่งรู้หลัก อย่าถือศักดิ์สนทนาอัชฌาสัย อุตส่าห์ถามตามประสงค์จำนงใน จึงจักได้รู้รอบประกอบการฯ
-๓-
อนึ่งบรรดาข้าไทที่ใจซื่อ จงนับถือถ่อมศักดิ์สมัครสมาน
อนึ่งคนมนต์ขลังช่างชำนาญ แม้พบพานผูกไว้เป็นไมตรี
เขาทำชอบปลอบให้น้ำใจชื่น จึงเริงรื่นรักแรงไม่แหนงหนี
ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง
-๔-
คำโบราณท่านว่าเหล็กแข็งกระด้าง เอาเงินง้างอ่อนตามความประสงค์ฯ
-๕-
แต่คนร้ายหสายลิ้นย่อมปลิ้นปลอก เลี้ยงมันหลอกหลอนเล่นเช่นผีอย่าพานพบคบค้าเป็นราคี เหมือนพาลีหลายหน้าระอาอายฯ
-๖-
อันคนดีมีสัตย์สันทัดเที่ยง ช่วยชุบเลี้ยงชูเชิดให้เฉิดฉาย
เอาไว้ใช้ใกล้ชิดไม่คิดร้าย เขารักตายด้วยได้ด้วยใจตรงฯ
-๗-
อันโซ่ตรวนพวนพันมันไม่อยู่ คงมิสู้ซ่อนหมุนในฝุ่นผง
แม้ผูกใจไว้ด้วยปากไม่จากองค์ อุตส่าห์ทรงทราบแบบที่แยบคายฯ
-๘-
อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
-๙-
จะรักชังทั้งสิ้นเพราะลิ้นพลอด เป็นอย่างยอดแล้วพระองค์อย่าสงสัย
อันช่างปากยากที่จะมีใคร เขาชอบใช้ช่างมือออกอื้ออึงฯ
-๑๐-
จงโอบอ้อมถ่อมถดพระยศศักดิ์ ถ้าสูงนักแล้วก็เขาเข้าไม่ถึง
ครั้นต่ำนักมักจะคิดผิดรำพึง พอก้ำกึ่งกลางนั้นขยันนักฯ
-๑๑-
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนไว้เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก จงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัยฯ
-๑๒-
จับให้มั่นคั้นหมายให้วายวอด ช่วยให้รอดรักให้ชิดพิสมัย
ตัดให้ขาดปรารถนาหาสิ่งใด เพียรจงได้ดังประสงค์คงจะดีฯ
-๑๓-
ธรรมดาว่ากษัตริย์อติเรก เป็นองค์เอกอำนาจดังราชสีห์
เสียงสังหารผลาญสัตว์ในปฐพี เหตุเพราะมีลมปากนั้นมากนักฯ
-๑๔-
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าบรรดาศักดิ์ แม้ไม่รักษายศจะอดสู
ซึ่งยศศักดิ์จักประกอบจำรอบรู้ ได้เชิดชูช่วยเฉลิมให้เพิ่มพูนฯ
-๑๕-
ประเพณีที่บำรุงกรุงกษัตริย์ ปฏิพัทธ์ผ่อนผันตามบรรหาร
ต่างพระทัยนัยน์เนตรสังเกตการ ตามบุราณเรื่องราชนุวัติฯ
-๑๖-
อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก แม้ถอยศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา
เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา แต่วิชาช่วยกายจนวายปราณฯ
-๑๗-
อย่าฟังฟ้องสองโสตจงโปรดปราน ด้วยลมพาลพานพัดอยู่อัตราฯ
-๑๘-
อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว ถึงลับตัวก็แต่ชื่อเขาลือฉาว
เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนครฯ
สุนทรภู่จบเรื่องสวัสดืรักษาด้วยการอุทิศส่วนกุศลถวายแด่เจ้าฟ้ากุณฑล เจ้าฟ้าอาภรณ์ เจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว ดังนี้
ควรมิควรส่วนผลานิสงส์ ซึ่งรูปทรงสังวรรัตน์ประภัสสร
ให้สี่องค์ทรงมหาสถาวร ถวายพรพันวสาขอลาเอย
ที่มา:สมชาย พุ่มสอาด