พูดถึงเต่าแล้วก็ควรจะพูดถึงเต่าที่อาศัยอยู่ในทะเลเสียด้วย เพราะเต่าทะเลมีจำนวนมากมาย และเต่าทะเลมาวางไข่บนหาดทรายให้คนเราเก็บมาทำอาหารรับประทานที่เราเรียกว่า ไข่จาระเม็ดก็คือไข่เต่านั่นเอง ทำไมจึงเรียกว่าไข่จาระเม็ดก็ไม่ทราบเหมือนกัน
พูดถึงเต่าทะเลแล้ว ชนิดที่สำคัญก็มีอยู่ ๒ ชนิด คือเต่ากระและเต่าตนุ
พูดถึงเต่าทะเลแล้ว ประโยชน์ของเต่านอกจากไข่ของมันจะเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์แล้ว เต่ากระยังใช้ประโยชน์จากกระดองของมันได้อีกด้วย เพราะกระดองหลังของเต่ากระนั้นประกอบด้วยแผ่นเกล็ด ๑๓ แผ่น มี ๓ แถวๆ กลางมี ๕ แผ่น แถวข้าง ๒ แถว มีแถวละ ๔ แผ่น แผ่นเกล็ดซ้อนทับกันประมาณ ๑/๓ ของแผ่นเกล็ด 
เกล็ดที่มีขนาดใหญ่ถึง ๘+๑๓ นิ้วก็มี และมีน้ำหนักถึง ๙ ออนซ์ โดยทั่วไปกระดองของเต่ากระยาวประมาณ ๑ ฟุตครึ่งถึง ๒ ฟุต และยาวที่สุดถึง ๓ ฟุตก็มี กระดองหลังของเต่ากระมีสีเหลือบใส มีจุดและลายสีน้ำตาลแก่ปนแดงประอยู่ทั่วไป โปร่งและสวยงาม มีคุณแข็งกว่าเขาสัตว์แต่เปราะ คนจึงนิยมเอากระดองกระมาทำเป็นเครื่องใช้สอยกันมากตั้งแต่สมัยโบราณ เช่นทำเป็นหวีที่เรียกหวีกระ ราคาแพง คนจึงจับกระมาฆ่าเอากระดองเสียมากต่อมาก สมัยรัชกาลที่ ๔ จึงมีประกาศพระบรมราชโองการ ห้ามจับกระโดยไม่ได้รับอนุญาตเพราะกลัวจะสูญพันธุ์เสียหมด
เต่ากระนั้นก็เหมือนเต่าทะเลทั่วไป วางไข่ในที่ชายหาด ซึ่งน้ำทะเลขึ้นไม่ถึง โดยตัวเมียจะขึ้นมาขุดหลุมให้กว้างแล้วแต่ขนาดของตัวมัน เมื่อขุดหลุมลึกแล้ว มันจะคอยยืนคล่อมปากหลุมแล้วไข่ลงในหลุมนั้น แล้วเอาดินกลบ กลบอย่างเดียวยังไม่พอ เต่ายังเอาอกกระแทกกระทุ้งดินตรงนั้นให้แน่นด้วยแล้วกลบรอยเสียอย่างดีจนเราสังเกตไม่ออกว่ามันวางไข่ตรงไหนแน่ เพราะบริเวณที่มันทำให้ทรายกระจายไปนั้นหลายตารางเมตร แต่คนก็ยังหาวิธีเอาไข่ของมันมาจนได้โดยวิธีเอาไม้เท้าสักลงไปในทราย ครั้งๆ หนึ่งเต่ากระจะวางไข่ราว ๑๕๐-๒๐๐ ฟอง ใครพบไข่เก่าเข้าหลุมหนึ่งก็หอบกันไม่ไหวทีเดียว เข้าใจว่าเต่าตัวหนึ่งวางไข่ประมาณ ๓ ครั้งต่อปี
ที่มา:วิชาภรณ์ แสงมณี