ความอัศจรรย์จากอำนาจจิตที่พิสูจน์ได้

Socail Like & Share

ยอดความอัศจรรย์ที่ไปพิสูจน์ได้
เรื่องการใช้อำนาจคุณพระอำนาจจิตทำผ้าขาวม้า ให้เป็นเสือที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นขั้นที่ใช้อำนาจจิตในสมาธิถึงขั้นสูงแล้ว การจะพิสูจน์ให้เห็นจริง ขอให้ทำจากง่ายไปก่อน คือ การแปลงธาตุเป็นตัวสัตว์มีชีวิต พระอาจารย์ในดงลึกให้เริ่มจากทำใบมะขามเป็นตัวแตนก่อน แล้วเลื่อนขึ้น ทำยากขึ้น วิธีทำโดยละเอียดได้กล่าวไว้ในวิทยาศาสตร์ทางใจฉบับส่องจักรวาลแล้ว วิธีนี้ใช้เพียงสมาธิขั้นกลาง ประโยชน์ที่จะได้รับคือ ให้เห็นธรรมระดับสูงในข้ออนิจจังความไม่เที่ยง ทั้งจากใบมะขามกลาย เป็นตัวแตน และประมาณ ๓ วันขึ้นไปจะกลับเป็นใบไม้คืน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการเข้าใจว่า พลังงานคุณพระและพลังงานจิต สามารถจัดระบบปรมาณูของธาตุขึ้นใหม่ได้ และยังถ่ายทอดพลังไปอยู่ในวัตถุอยู่ในพระบรมสารีริกธาตุได้ด้วย เป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ซึ่งจะโยงใยไปเข้าใจในเรื่องหายตัวได้ เหาะได้เดินบนอากาศได้ ตามที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก และในคัมภีร์ศาสนาต่างๆ ทำให้พ้นจากความเห็นผิด มิจฉาทิฏฐิ ซึ่งมีโทษมาก

หลักฐานในพระไตรปิฎกมีอยู่มาก เช่น ในพระวินัย ปิฎก เล่ม ๗ หน้า ๑๓๓ พระสาคตะแสดงการเหาะ และหายตัว ในหน้า ๒๐๔ พระปิลินททำขดหญ้าให้เป็นทองคำได้ ในหน้า ๒๑๙ พระโมคคัลลา หายตัวไปเอา เง่าบัว เป็นต้น ล้วนสอนให้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

การตายหรือสลบแล้วฟื้นคืนชีวิตได้ และระหว่างที่ตายจะมีกายในเป็นแก้วใสออกไปเที่ยวไกลๆ หรือไปเห็นนรกสวรรค์ได้ตามที่กล่าวมาแล้วนั้นก็มีตัวอย่างอยู่มาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น พระฤๅษีลิงดำ และพันเอกเสนาะ จินตรัตน์ ซึ่งตายแล้วฟื้นถึง ๒ ครั้ง ไปดูสวรรค์ได้ เป็นที่ทราบกันดีทั่วไปเพราะมีการบรรยายเรื่องและเขียนเป็นหนังสือเผยแพร่ด้วย ส่วนผู้ตายแล้วฟื้นได้ไปดูนรกสวรรค์ได้ก็มีหลายรายที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอแนะนำผู้ที่ควรเชื่อถือได้ผู้หนึ่งที่ตายหรือสลบแล้วฟื้นได้ไปดูสวรรค์ คือ พันเอก (พิเศษ) อุดร มีพรหม อยู่บ้าน ไผ่ล้อม ใกล้ค่ายทหาร จ.นครราชสีมา เวลานี้ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องตายแล้วฟื้นมีกายในหรือกายทิพย์เป็นแก้วใสแยกออกไปท่องเที่ยว หลักสูตรการกระโดดเหวลึกแล้วสลบสี่วัน มีกายในพร้อมวิญญาณประจำร่างออกไปได้ และ การถ่ายภาพด้วยเครื่องถ่ายเกอร์เลี่ยนก็ถ่ายเห็นกายในของคนที่ตายใหม่ๆ เป็นแก้วใสตรงกันยืนยันกันได้ดังที่กล่าวมาแล้ว

การที่ผู้รวบรวมไปธุดงค์ที่เขาใหญ่ที่กล่าวมาแล้ว มีเสือเข้ามาใกล้ผู้รวบรวมได้ เป็นเพราะพระอาจารย์หลับไปนิดหนึ่งก็เป็นการอัศจรรย์ที่พลังจิตพลังคุณพระสามารถป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายเข้าใกล้ แต่ถ้าหลับก็ไม่มีพลังจะป้องกันยกเว้นพระอรหันต์ เพราะพระอรหันต์ไม่มีการหลับเหมือนคนทั่วไป แต่เป็นการนอนที่มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา จึงมีพลังป้องกันภัยต่างๆ ได้ความประมาท คือความปราศจากสติ พระอรหันต์เป็นผู้ไม่ประมาท

ผี, เปรต มีทั้งที่เป็นจริงและเป็นอุปาทาน คือเกิดจากการนึกคิดหรือมโนภาพ ผี และเปรตที่พบจริงก็คือ วิญญาณประจำร่างพร้อมกายทิพย์หรือกายใน ส่วนวิญญาณแท้ซึ่งตายไปเป็นเปรตประเภทรับส่วนบุญได้ ก็ พบเห็นหรือได้ยินเสียง ตัวอย่างเช่น เปรตที่ปรากฏเสียงในวังพระเจ้าพิมพิสาร พระอาจารย์ในดงเล่าว่า ยังมีผีมีเปรตอีกประเภทหนึ่งที่ เกิดจากสมองในส่วนที่นึกคิด เมื่ออยู่ในที่เงียบสงัดนานวันเข้า บางครั้งจิตคิดปรุงแต่งไปว่าตนเองพูดไม่ได้ เลยลองตะโกนดู บางทีปรุงแต่งเห็น เป็นผี เห็นเป็นเปรต มาขู่ว่า “กูจะฆ่ามึง” ตัวพระอาจารย์ ก็ทำสมาธิเข้มแข็งอยู่จึงตอบว่า “กูก็จะฆ่ามึง” แล้วเปรตนั้นก็หายไป นี่ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนพิสูจน์ ดูด้วยตนเองได้จากการธุดงค์ไปในป่าลึกที่เงียบสงัด

เรื่องผีเข้าคนทำให้สติผิดปกติ พูดแปลกๆ บางที การเข้าสิงนานขึ้นก็จำพ่อแม่ญาติพี่น้องของตนไม่ได้ ถ้าใช้วิธีการไล่ผีก็จะหายเป็นปกติทันที ไม่มีการค่อยๆ หายเหมือนโรคอื่น อีกอย่างหนึ่งผีเข้าหรือการถูกของ กระทำให้เจ็บปวดเคลื่อนที่ได้ด้วยมิจฉาสมาธิ ก็เป็นโรคทรมานที่ใช้ยาอื่นๆ รักษาไม่ได้ผล ต้องใช้วิธีเสกเป่า อาบนํ้ามนต์หรือใส่ปรอทเข้าทางฝ่ามือ ภาวนาถอนของ และขับไล่ นับว่าเป็นโรคที่น่าอัศจรรย์แต่เรียนรู้และพิสูจน์ดูได้ ผู้ไม่เชื่อก็รักษาแบบโรคทั่วไปจึงไม่มีทางจะหายได้

เรื่องเทวดาเจ้าป่าซึ่งทำให้เป็นได้ต่างๆ เช่น ตัวอย่างที่กล่าวมาแล้วว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๔ ผู้รวบรวมไปฝึกที่เขานํ้าเมา ไปถึงนอนเลย ก็ถูกแกล้งปล่อยมดง่ามตัวใหญ่บ้างเล็กบ้างเข้ามุ้งได้โดยที่มุ้งมีสองเพดานไม่มี ทางเข้าได้ แต่มดก็เข้าออกได้ หรือการไปธุดงค์ที่เขาใหญ่ในที่ซึ่งมีอันตรายจะนอนพักเจ้าป่าก็ห้ามไว้ด้วยการ แกว่งใบไม้ และถามกันรู้เรื่อง นี่ก็นับว่าอัศจรรย์ซึ่งผู้จะพิสูจน์ไปธุดงค์เองก็จะรู้เห็นได้

ที่มา:ชม  สุคันธรัต