อายุของมนุษย์ ๑๐ ระยะ

Socail Like & Share

อย่างไรก็ตามในเรื่องของอายุหรือวัยนี้ คนเราพยายามวางกฎเกณฑ์ไว้แต่โบราณนานมาแล้วว่าวัยไหนเป็นอย่างไร ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรคทางพุทธศาสนาของเรา กำหนดระยะอายุของมนุษย์ไว้ว่ามีอยู่ ๑๐ ระยะๆ ละ ๑๐ ปีดังนี้วัยของมนุษย์

๑๐ ปีที่ ๑-เรียก มันททสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งความอ่อนแอ คือ ตั้งแต่ ๑ ถึง ๑๐ ขวบ นับว่ายังเป็นเด็กเล็กที่ซุกซน

๑๐ ปีที่ ๒-เรียก ขิฑฑทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งความคะนองเล่น ตั้งแต่อายุ ๑๐ ถึง ๒๐ ปีเต็มไปด้วยความพอใจในการเล่น

๑๐ ปีที่ ๓-เรียก วัณณทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งผิวพรรณ ตั้งแต่อายุ ๒๐ ถึง ๓๐ ปีรูปโฉมเปล่งปลั่งเต็มที่

๑๐ ปีที่ ๔-เรียก พละทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งกำลัง ตั้งแต่อายุ ๓๐ ถึง ๔๐ ปี กำลังและความแข็งแรงขึ้นถึงขีดที่สุด

๑๐ ปีที่ ๕-เรียก ปัญญาทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งปัญญา ตั้งแต่อายุ ๔๐ ถึง ๕๐ ปีปัญญาเจริญเต็มที่ ถึงคนที่โง่เขลาก็จะเกิดสติปัญญา มาตรว่าจะมีอยู่น้อยในระยะนี้

๑๐ ปีที่ ๖-เรียก หานิทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งความเสื่อม ตั้งแต่อายุ ๕๐ ถึง ๖๐ ปี ความรักในการเล่น ผิวพรรณ กำลัง ปัญญา ค่อยเสื่อมไปในระยะนี้

๑๐ ปีที่ ๗ –เรียก ปัพภารทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งความค่อม ตั้งแต่อายุ ๖๐ ถึง ๗๐ ปี หลังโกงโดยลำดับ

๑๐ ปีที่ ๘-เรียก วังกทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งความหง่อม ตั้งแต่อายุ ๗๐ ถึง ๘๐ ปี กายคดค้อมน้อมลงเหมือนงอนไถ

๑๐ ปีที่ ๙-เรียก โมมูหทสกะ หรือมูฬหทสกะ คือ ๑๐ ปี แห่งความหลงใหลตั้งแต่อายุ ๘๐ ถึง ๙๐ ปี สิ่งที่จดจำไว้เลอะเลือน

๑๐ ปีที่ ๑๐-เรียก สยนทสกะ คือ ๑๐ ปีแห่งการนอน ตั้งแต่อายุ ๙๐ ถึง ๑๐๐ ปีเป็นระยะที่ดำรงชีวิตอยู่ในอิริยาบถนอน

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ว่าตามคัมภีร์วิสุทธิมรรค ทีนี้เรามาลองดูการแบ่งแยกวัยของคนตามตำราของชาวอังกฤษดูบ้าง แล้วจะเห็นว่าน่าอัศจรรย์ไม่น้อยทีเดียว ที่ความนึกคิดในเรื่องนี้ตรงกับคัมภีร์วิสุทธิมรรคมากทีเดียว ตำราของอังกฤษแบ่งวัยคนไว้ดังนี้

๑. อายุ ๑๐ ปี เป็นเด็กเปี่ยมด้วยความสุข มีแต่รื่นเริง เต็มไปด้วยความสนุก
๒. อายุ ๒๐ ปี กำลังสวย ใฝ่ความรัก ไม่รู้จักกลัว ไม่มีห่วง
๓.อายุ ๓๐ ปี พึงกล่าวได้ว่า เป็นผู้ที่มีครอบครัวอยู่เป็นสุขสบาย
๔. อายุ ๔๐ ปี การแข่งขันอันยุ่งยากได้ลุล่วงไปแล้ว ไม่ต้องกลัวใคร ทั้งยังอาจพูดได้ว่า “ทุกอย่างสำเร็จแล้ว”
๕. อายุ ๕๐ ปี ดุจยืนนิ่งเมื่อวิ่งถึงที่สุด แลดูข้างหน้าข้างหลัง (อนาคตและอดีต)
๖. อายุ ๖๐ ปี โลกย่อมกล่าวว่า ตั้งต้นแต่จะเดินลง (หรือย่างเข้าเขตชีวิตที่ชราลง)
๗. อายุ ๗๐ ปี ถือไม้เท้า ผมสีดอกเลา เดินใช้ไม้เท้าจุน
๘. อายุ ๘๐ ปี ผมหงอกขาว กลางวันของชีวิตกลับกลายเป็นกลางคืน
๙. อายุ ๙๐ ปี อ่อนแอ หลังงอ ร่างกายงกเงิ่น ชีวิตกำลังจะลาจากร่างอันง่อนแง่นอยู่แล้ว
๑๐. อายุ ๑๐๐ ปี หากล่วงมาได้ถึง ๑๐๐ ปี เขาก็ได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้าและหายใจเป็นครั้งสุดท้าย

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี