พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา

Socail Like & Share

วันอาสาฬหบูชาคือวันขึ้น ๑๕ คํ่า เดือน ๘ สืบเนื่องมาจากเทศกาลเข้าพรรษาซึ่งเริ่มตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ จนถึงแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ในระหว่าง ๓ เดือนนี้เป็นฤดูฝนการเดินทางจาริกสั่งสอนแสดงธรรมของพระภิกษุในฤดูนี้ จึงได้เหยียบยํ่าข้าวกล้าธัญพืชของชาวไร่ชาวนาเสียหาย แม้แต่สัตว์เล็กๆ ก็ถูกเหยียบยํ่าตายไป พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติให้พระสงฆ์หยุดพักการเดินทางและอยู่ปฏิบัติพระธรรมวินัย ณ ที่ใดที่หนึ่ง พุทธพระราชกุศลวันเข้าพรรษาศาสนิกชนถือโอกาสที่พระสงฆ์ได้มาอยู่พร้อมเพรียงกันนี้บำเพ็ญกุศลฟังพระธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล พร้อมทั้งนำเครื่องสักการะบูชา เช่น เทียนพรรษา และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นแก่พระสงฆ์ไปถวาย ซึ่งได้ทำกันจนเป็นประเพณีสืบมา ส่วนในราชสำนักก็ได้ปฏิบัติสืบมาแต่ โบราณจนถึงปัจจุบัน คือ

ก่อนจะถึงเทศกาลพระราชพิธีเข้าพรรษา ๔๕ วัน จะมีการหล่อเทียนพรรษา สำนักพระราชวัง จะแจ้งให้พระบรมวงศานุวงศ์และหน่วยราชการต่างๆ ถ้ามีจิตศรัทธาโดยเสด็จพระราชกุศลในการหล่อเทียนพรรษา ให้นำขี้ผึ้งมามอบที่กองพระราชพิธี เมื่อรวบรวมพร้อมแล้วเจ้าพนักงานจะได้หุงขี้ผึ้งแล้วนำไปตั้งพร้อมด้วยหุ่นเทียน ณ พระราชฐานที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกทรงเทขี้ผึ้งหล่อเทียนพรรษา มีจำนวนเทียนหล่อ ๓๓ เล่ม (ใหญ่ ๓๑ เล่ม เล็ก๒) เล่ม กระจุบยอดเทียนสลัก ๕๐ เล่ม ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเทียนที่หล่อไปตกแต่งลวดลายปิดทองให้เรียบร้อย เมื่อจะถึงวันเข้าพรรษาประมาณ ๗ วัน เจ้าพนักงานจะได้นำเทียนที่ทรงหล่อนั้นไปตั้งถวาย ณ พระราชฐานที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมเทียนพรรษา กระจุบยอดเทียน สลัก เทียนชนวนและไม้ขีดไฟที่จะพระราชทานไปจุดเป็นพุทธบูชาตามพระอารามหลวง ซึ่งมีบัญชีที่ได้รับพระราชทานดังนี้

บัญชีวัดที่ได้รับพระราชทานเทียนพรรษา

ชื่อวัด

จำนวนเทียนพรรษา

หมายเหตุ

เทียนหล่อ

เทียนสลัก

กระทรวงศึกษาธิการวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ๒ เล่ม
วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ เล่ม ๑ เล่ม
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ๒ เล่ม
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ๑ เล่ม
วัดราชโอรสาราม ๑ เล่ม
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ๒ เล่ม
วัดราชาธิวาสวิหาร ๒ เล่ม
วัดสุทัศนเทพวราราม ๑ เล่ม ๑ เล่ม
วัดมกุฏกษัตริยาราม ๑ เล่ม
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ๑ เล่ม
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ๑ เล่ม ๑ เล่ม
วัดอรุณราชวราราม ๑ เล่ม ๑ เล่ม
วัดเทพศิรินทราวาส ๑ เล่ม
วัดชนะสงคราม ๑ เล่ม
วัดกัลยาณมิตร ๒ เล่ม
วัดหนัง ๑ เล่ม
วัดนางนอง ๑ เล่ม
วัดพิชัยญาติการาม ๑ เล่ม
วัดมหาพฤฒาราม ๑ เล่ม
วัดประยุรวงศาวาส ๑ เล่ม
วัดระฆังโฆสิตาราม ๑ เล่ม
วัดจักรวรรดิราชาวาส ๑ เล่ม
วัดราชสิทธาราม ๑ เล่ม
วัดอมรินทราราม ๑ เล่ม
วัดสัมพันธวงศ์ ๑ เล่ม
วัดปทุมคงคา ๑ เล่ม
วัดปรินายก ๑ เล่ม
วัดราชนัดดาราม ๑ เล่ม
วัดเทพธิดาราม ๑ เล่ม
วัดเขมาภิรตาราม (นนทบุรี) ๑ เล่ม
วัดเฉลิมพระเกียรติ(นนทบุรี) ๑ เล่ม
วัดชัยพฤกษ์มาลา(นนทบุรี) ๑ เล่ม
วัดปทุมวนาราม ๑ เล่ม
วัดบรมนิวาส ๑ เล่ม
วัดโมลีโลกยาราม ๑ เล่ม
วัดโสมนัสวิหาร ๑ เล่ม
วัดหงส์รัตนาราม ๑ เล่ม
วัดพระศรีมหาธาตุ ๑ เล่ม
วัดสุวรรณาราม ๑ เล่ม ๑ เล่ม
กระทรวงมหาดไทย
วัดปรมัยยิกาวาส(นนทบุรี) ๑ เล่ม
วัดโปรดเกสเชษฐาราม(สมุทรปราการ) ๑ เล่ม
วัดไพชยนต์พลเสพ(สมุทรปราการ) ๑ เล่ม
วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม(สมุทรปราการ) ๑ เล่ม
วัดพระพุทธบาท (สระบุรี) ๑ เล่ม
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(พิษณุโลก) ๑ เล่ม
วัดชุมพลนิกายาราม(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดอัมพวันเจติยาราม(สมุทรสงคราม) ๑ เล่ม
วัดพระปฐมเจดีย์(นครปฐม) ๑ เล่ม
วัดกระวิศยาราม(ลพบุรี) ๑ เล่ม
วัดพระมหาธาตุ(นครศรีธรรมราช) ๑ เล่ม
วัดมหาธาตุ(สุโขทัย) ๑ เล่ม
วัดป่าโมกข์(อ่างทอง) ๑ เล่ม
วัดศาลาปูน (พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดสุวรรณดาราราม(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดเสนาสนาราม(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดบรมวงศ์อิศรวราราม(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดนิเวศธรรมประวัติ(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดพนัญเชิง(พระนครศรีอยุธยา) ๑ เล่ม
วัดไชโย(อ่างทอง) ๑ เล่ม
วัดพระนอนจักรสีห์(สิงห์บุรี) ๑ เล่ม
วัดมหาสมณาราม(เพชรบุรี) ๑ เล่ม
วัดพระบรมธาตุไชยา(สุราษฎร์ธานี) ๑ เล่ม
วัดพระธาตุหริภุญชัย(ลำพูน) ๑ เล่ม
วัดพระธาตุพนม(นครพนม) ๑ เล่ม
กองมหาดเล็ก
หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง ๑ เล่ม
พระพุทธนรสีห์ ๑ เล่ม พระที่นั่งอัมพรสถาน
พระพุทธบุษยรัตน์ ๒ เล่ม พระที่นั่งอัมพรสถาน
แผนกวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระศรีรัตนเจดีย์ ๑ เล่ม
หอพระมณเฑียรธรรม ๑ เล่ม
ในพระอุโบสถ ๒ เล่ม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
พระพุทธสิหงค์ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ๑ เล่ม
รวม ๓๓ เล่ม ๕๐ เล่ม

ครั้นถึงกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุคลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา เวลา ๑๖ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามประทับพระราชอาสน์ หัวหน้ากองพระราชพิธีเชิญเทียนชนวนทูนเกล้าฯ ถวาย ทรงจุดไฟ จากโคมสำหรับถวายเจ้าอาวาสไปจุดเทียนพรรษาที่ทรงพระราชอุทิศไว้แล้ว ทรงจุดเทียนพรรษาบูชาพระรัตนตรัย ถวายพุ่มเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระลัมพุทธพรรณี พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทรงประเคนถาดบรรจุพุ่มเทียน ถ้วยใส่ดอก ไม้ ธูป ๑ กล่อง เทียน ๕๐ เล่ม แด่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ พระถานา¬นุกรมเปรียญ พระภิกษุนาคหลวง จำนวน ๓๐ รูป พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานพุ่มเทียนเที่ยวแรกนี้ ถวายอดิเรกแล้วออกจากพระอุโบสถ พระสงฆ์ชุดต่อไปขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ทรงประเคนพุ่มเทียนแด่พระสงฆ์ ๓๐ รูป พระสงฆ์นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น องคมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการชั้นพิเศษ และนายทหารชั้นนายพล ถวายพุ่มเทียนจนหมดจำนวนพระสงฆ์ประมาณ ๓๐๐ รูป แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ส่วนเทียนพรรษาสำหรับบูชาปูชนียวัตถุในพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดารามและที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียน

วันเข้าพรรษาคือวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๘ ในวันนี้เวลาเช้า โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ ๑๕๐ รูป เข้าไปรับพระราชทานอาหารบิณฑบาตของหลวงในพระบรมมหาราชวังตามราชประเพณี เนื่องด้วยพระราชกุศลเข้าพรรษา

ครั้นเวลา ๑๖ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นฤดูฝนถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียนแด่พระพุทธชินสีห์ ถวายพุ่มเทียนที่พระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ถวายพุ่มเทียนแด่เจ้าอาวาส แล้วเสด็จฯ ไปถวายพุ่มเทียนตามปูชนียสถานและปูชนียวัตถุในวัด คือ พระพุทธเจดีย์ พระศาสดา พระพุทธไสยา พระพุทธวชิรญาณ พระพุทธปัญญาอัคคะ พระพุทธมนุษยนาค

ที่พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียนแด่พระพุทธนรสีห์ พระพุทธบุษยรัตน์แทนพระองค์

การจุดเทียนพรรษาที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามและวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ตามราชประเพณีแต่เดิมมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียน แต่ในปัจจุบันทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์เสด็จไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ มีกำหนดดังนี้

ที่วัดพระเซตุพนวิมลมังคลาราม ผู้แทนพระองค์ทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียนแด่พระพุทธเทวปฏิมากรพระประธานในพระอุโบสถ ถวายพุ่มเทียนที่วิหารทิศ พระพุทธไสยาสน์ แล้วเสด็จไปยังตำหนักวาสุกรี ถวายพุ่มเทียนที่พระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส และถวายพุ่มเทียนแด่เจ้าอาวาส

ส่วนที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จถึงหน้าพระอุโบสถทรงตักบาตรเทียนแด่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด โดยพระภิกษุสามเณรเดินเข้าไปรับดอกบัวธูปและเทียนมัดรวมกันจากผู้แทนพระองค์ตามลำดับ แล้วผู้แทนพระองค์เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่มเทียนแด่เจ้าอาวาส เสร็จแล้วเสด็จไปยังวิหารสมเด็จ ถวายพุ่มเทียนบูชาพระพุทธนรสีห์จำลองและพระฝางจำลอง

พระอารามหลวงนอกจากที่กล่าวนี้ เมื่อก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ พระราชทานเทียนจุดไฟไว้ในโคมให้พระราชวงศ์ไปทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่ม ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ได้พระราชทานไฟชนวนให้เจ้าหน้าที่ไปจุดในโคมเล็กๆ ถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวง นำไปจุดเทียนพรรษาที่ทรงพระราชอุทิศไว้

การแต่งกายเครื่องแบบปรกติขาว

ที่มา:กรมศิลปากร