พระนางผุสสดีขอพร ๑๐ อย่าง

Socail Like & Share

ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่รักสวยรักงามมาตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ไม่ต้องดูอื่นไกล ดูแต่พระนางผุสสดี เมื่อพระอินทร์ให้ขอพร ๑๐ อย่าง ก็แล้วกัน ในพร ๑๐ อย่างนั้น พระนางผุสสดีขอเกี่ยวกับความงามเสียเกินครึ่ง พร ๑๐ อย่างหรือ ๑๐ ประการนั้นคือนางผุสสดี

๑. สีวราชสฺส อคฺคมเหสีภาโว ขอให้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าสีวิราช เป็นมเหสีรองลงมาก็คงไม่เอา
๒. นีลเนตฺตตา ขอให้มีดวงตาดำสนิทเหมือนตาลูกเนื้อทราย
๓. นีลภมุกตา ขอให้มีขนคิ้วเขียวสนิทเหมือนสร้อยคอนกยูง
๔. ผุสฺสตีติ นามํ ขอให้ชื่อว่าผุสสดี
๕. ปุตฺตปฏิลาโภ ขอให้ได้ลูกผู้ชายผู้ทรงเกียรติ และมีศรัทธาในการกุศล
๖. อนุนฺนตกุจฺฉิตา ทรงครรภ์อย่าให้นูนขอให้งามคล้ายกับธนู
๗. อลมฺพตฺถนตา ขออย่าให้ถันหย่อนยาน (เวลามีครรภ์ขออย่าให้ดำ)
๘. อปลิตถาโว ขออย่าให้ผมหงอก (ให้ดำสนิทเหมือนปีกแมลงค่อมทอง)
๙. สุขุมจฺฉวิภาโว ขอให้มีฉวีวรรณละเอียด
๑๐. วชฺณปฺปโมจนสมตฺถตา ขอให้ปล่อยนักโทษประหารให้รอดตาย เห็นไหมว่าผู้หญิงนั้น ถือความงามเป็นสิ่งสำคัญเพียงไร ข้อนี้คงเหมือนดังคำกลอนที่ว่า

“สุมาลีหลายหลากมากมวลมี   ต่างต่างสีราวลายวิเลขา
เหมือนแสร้งแต่งล่อแมลงให้บินมา  ด้วยหมายว่ามีกลิ่นอันรินรวย เปรียบเหมือนอย่างดรุณีอยากมีคู่   แต่งกายาล่อชู้ให้เห็นสวย

เพื่อจะล่อชายหลงและงงงวย   แล้วเอออวยรับรักสมัครกัน”

ก่อนจะจบเรื่องของผู้หญิง ลองมาฟังคารมเกี่ยวกับผู้หญิงดูบ้าง
เบ.จี. ฮอลแลนด์ กล่าวว่า
“เมื่อหญิงรักก็มีลักษณะอันน่าสงสาร”

มิลตันว่า “ผู้หญิงต้องการลิ้นแต่เพียงเดียวเท่านั้น”

สเปนเซอร์ว่า “เล่ห์เหลี่ยมที่หญิงคดเคี้ยวไปนั้นใครรู้บ้าง”

เชคสเปียร์ปราชญ์ชาวอังกฤษว่า
“ใครคนไหนนะที่เขาคิดว่าจะอ่านผู้หญิงออก”
“ลักษณะอย่างหนึ่งในน้ำใจของสตรี คือย่อมเห็นสิ่งที่ตนมีอยู่แล้วนั้นเบาค่าแล้ว ถอนอุราครวญถึงสิ่งที่ยังไม่ได้” นางอนงราคาในหนังสือ
เรื่องอนงราคา

“ชีวิตจิตใจของชาติอยู่ในมือของสตรี บ้านจะรุ่งเรืองเมืองจะรุ่งโรจน์ก็เพราะมีสตรีที่ดี” ม.ร.ว. เสริมศรี เกษมศรี

“เปลก็ไกว ดาบก็แกว่งแข็งหรือไม่ ไม่ประมาทหญิงไทยใช่ชั่ว ไหนจะกิจในบ้านไหนงานครัว ใช่จะรู้แต่จะยั่วผัวเมื่อไร” สมเด็จกรมพระนราฯ ทรงนิพนธ์ยกย่องหญิงไทย

เรื่องของผู้หญิงก็เหมือนเหลี่ยมพลายของเพชร ใครจะมองแง่ไหนอย่างไรก็แล้วแต่จะมอง

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี