พระราชกุศลทักษิณานุปทาน และพระราชพิธีฉัตรมงคล

Socail Like & Share

พระราชพิธีฉัตรมงคลมีพระบรมราชาธิบายในพระราชพิธี ๑๒ เดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงพระราชดำริว่าวันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้นเป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูปโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติจึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศลพระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคล เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีเพิ่มการพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์

ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่มการพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ตอน ๑ พระราชพิธีฉัตรมงคลซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองที่ได้บรมราชาภิเษกอีกตอน ๑

พระราชกุศลทักษิณานุปทานและพระราชพิธีฉัตรมงคลในปัจจุบันได้จัดพระราชพิธีอนุโลมพระราชพิธีดังกล่าวนี้

พระราชกุศลทักษิณานุปทาน
พระราชพิธีนี้เป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในรัชกาลพระราชกุศลทักษิณานุปทานก่อน ตั้งการพระราชพิธีที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เชิญพระโกศพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทลมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระโกศพระบรมอัฐิพระอัครมเหสี คือ สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี สมเด็จพระศรีสุลาลัย สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรและพระพุทธรูปปางประจำพระชนมวารพระบรมอัฐิของทุกพระองค์ขึ้นประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทอดเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปปางประจำพระชนมวาร ทอดเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทองลงยารองที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรสำหรับถวายสักการะพระบรมอัฐิ แวดล้อมด้วยเครื่องราชูปโภค บรมราชอิสริยยศต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ตั้งธรรมาสน์กลีบบัวสำหรับพระสงฆ์ถวายพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับการพระราชกุศลทักษิณานุปทาน อาสนสงฆ์สำหรับพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์และสดับปกรณ์ ทอดพระราชอาสน์และเก้าอี้ที่เฝ้าฯ ของพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการ

วันที่ ๓ พฤษภาคม เวลา ๑๖ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯ เข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปสำคัญประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐิที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ แล้วเสด็จฯ ไปที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ ประทับพระราชอาสน์ เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล พระสงฆ์ ๒๒รูป สวดพระพุทธมนต์การพระราชกุศลทักษิณานุปทานจบ พระบาทสม เด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์เทศน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงจุดธูป เทียนเครื่องทรงธรรม แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมอัฐิทรงธรรม แล้วประทับพระราชอาสน์ เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ ๑ จบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงประเคนเครื่องไทยธรรมกัณฑ์เทศน์ แล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ไปนั่งอาสนสงฆ์สำหรับสดับปกรณ์และลาดพระภูษาโยงจากที่ประดิษฐานพระโกศพระบรมอัฐิ ไปยังอาสนสงฆ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์รวมทั้งพระถวายพระธรรมเทศนาด้วยเป็น ๒๓ รูป พระสงฆ์ทั้งหมดสดับปกรณ์พระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธรูปที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงกราบพระบรมอัฐิที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสด็จพระราชดำเนินกลับ เป็นเสร็จการพระราชกุศลทักษิณานุปทานตอนหนึ่ง

งานวันนี้แต่งเครื่องแบบครึ่งยศ

พระราชพิธีฉัตรมงคล
พระราชพิธีนี้เป็นการเฉลิมฉลองพระมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์ พระแสงสำคัญประจำรัชกาล อันเนื่องด้วยคล้ายวันที่จะเข้าสู่งานบรมราชาภิเษกเสวยราชสมบัติพระราชพิธีฉัตรมงคลตามราชประเพณี จึงได้ตั้งการพระราชพิธีเฉลิมฉลองที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลปัจจุบัน ประดิษฐานที่ม้าหมู่พระแท่นมุก ด้านตะวันออก และเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงสำคัญประจำรัชกาลประดิษฐานที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร ตั้งเทวรูปชื่อพระราชมุทธาธรเชิญหีบพระราชลัญจกร และเทวรูปชื่อพระราชบันฦๅธารเชิญพระแสงพระราชพิธีข้างพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยต้นไม้ทอง-เงิน ตั้งอาสนสงฆ์ พระราชอาสน์ เก้าอี้ที่ประทับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการไว้พร้อม

วันที่ ๔ พฤษภาคม เวลา ๑๖ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯ ขึ้นทางบันไดเกยพระที่นั่งพิมานรัตยา แล้วเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วประทับพระราชอาสน์ เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมท์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศีลจบแล้ว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรบูชาเทพยดา รักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้วหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล

เมื่อหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคลจบ พระสงฆ์ ๒๐ รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์จบ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททางบันไดมุขเหนือผ่านผู้ที่มาเฝ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันนี้แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ

วันที่ ๕ พฤษภาคมวันนี้เป็นมงคลดิถีคล้ายวันที่ได้ทรงรับนพปฎลมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อันมีพระมหามงกุฎเป็นปฐมแห่งการบรมราชาภิเษก จึงกำหนดการพระราชพิธีที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเช่นวันก่อน แต่ตั้งโต๊ะเครื่องบายศรีสำรับใหญ่ สำหรับเวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และองศ์สมเด็จพระมหากษัตริย์ที่ได้เสวยราชสมบัติมาบรรจบในมงคลดิถีวันบรมราชาภิเษก

เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวังดุสิตไปยังพระบรมมหาราชวัง เสด็จขึ้นทางบันไดเกยพระที่นั่งพิมานรัตยา เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนาอาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีลและถวายพรพระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระสังฆราช นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ทรงประเคน แด่พระสงฆ์ตามลำดับ เมื่อพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์แต่วันก่อนรับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยแทนเครื่องไทยธรรมแด่สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงยืนประเคนพระสงฆ์ซึ่งตํ่ากว่าพระราชาคณะจนครบ ๒๐ รูปแล้วประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง ราชประเพณีแต่เดิมมีอ่านฉันท์กล่อมพระมหาเศวตฉัตร ศิลปินขับไม้ประกอบซอสามสาย ได้งดไปตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕

เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรสักการะเทพยดาที่รักษาพระมหาเศวตฉัตร เครื่องราชกกุธกัณฑ์ แล้วประทับพระราชอาสน์ เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้าฯ รายล้อมตามแนวผ้าแดง หลังพระราชอาสน์ มีสมุหราชองครักษ์ เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ ต่อไปเป็นแนวพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เมื่อเวียนเทียนครบ ๓ รอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวง ผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตรเรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงพระสุหร่ายเครื่องราชกกุธกัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ที่หน้าพระแท่นมุก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททางบันไดมุขเหนือไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ

อนึ่ง ในวันนี้ซึ่งเป็นดิถีคล้ายวันบรมราชาภิเษก เวลาเที่ยงวันทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่ เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ ๒๑ นัด

การถวายภัตตาหารพระสงฆ์และเวียนเทียนสมโภชวันนี้เป็นงานแต่งเครื่องแบบปรกติขาว ประดับเหรียญ (เหรียญบรมราชาภิเษก เหรียญรัตนาภรณ์ เหรียญที่ระลึกประจำรัชกาล)

เสด็จออกมหาสมาคม
เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงสถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าและพระราชทานในพระราชพิธีฉัตรมงคล รัชกาลต่อๆ มาจึงได้ถือเป็นราชประเพณี พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าในท่ามกลางมหาสมาคม พร้อมด้วยเครื่องประกอบเกียรติยศตราจุลจอมเกล้า

เมื่อเสร็จจากงานเลี้ยงพระและเวียนเทียนสมโภชในตอนเช้าแล้ว เจ้าพนักงานถอนเครื่องตกแต่งบนพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรออกทั้งหมด พร้อมกับถอนพระราชอาสน์ อาสนสงฆ์ เก้าอี้และเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์กลับ ทอดพระแท่นลายสลักปิดทองประดับกระจกที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร ลาดผ้าสุจหนี่ปักตราราชสีห์ตรงกลาง ตั้งพระราชอาสน์เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและโต๊ะเคียงสองข้าง โต๊ะเคียงเบื้องซ้ายทอดพานพระขันหมากและพระสุพรรณศรี ข้างพระราชอาสน์ทอดพระสุพรรณราชทองคำเฟือง หลังพระราชอาสน์ที่ประทับทอดพระแสงปืนและพระแสงของ้าวด้ามถม สี่มุมพระแท่นมุกตั้งต้นไม้ทอง-เงินไว้พร้อม

ครั้นเวลา ๑๖ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตไปยังพระบรมมหาราชวัง เสด็จขึ้นทางบันไดเกยพระที่นั่งพิมานรัตยาเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีสมุหพระราชพิธี สมุหพระราชมณเฑียร และเจ้าหน้าที่เชิญพระมหาพิชัยมงกุฎ เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ตามเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จแยกไปเฝ้าฯ ทางพระบรมวงศานุวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปประทับ ณ พระราชอาสน์บนพระแท่นหน้าพระราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎทอดที่โต๊ะเคียงพระราชอาสน์เบื้องขวา ขณะนั้นตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองเป็นสัญญาน ชาวพนักงานกระทั่งแตร มโทระทึก กองทหารมหาดเล็กรักษาพระองศ์ซึ่งตั้งแถวเป็นกองเกียรติยศอยู่ที่ลานพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้าน เหนือ ถวายความเคารพแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้ที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นมหาสมาคมยืนถวายความเคารพโดยดุษณี เมื่อสุดเสียงประโคมแล้วผู้เฝ้าฯ ถวายความเคารพพร้อมกัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่อาลักษณ์ กองประกาศิต สำนักนายกรัฐมนตรี อ่านรายนามผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเดินเข้าไปรับพระราชทานตามลำดับ เมื่อพระราชทานเสร็จแล้วเสด็จขึ้นพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีสมุหพระราชพิธี สมุหพระราชมณเฑียรตามเสด็จพร้อมด้วยพนักงานเชิญเบญจราชกกุธภัณฑ์ ขณะนั้นตำรวจหลวงชูพุ่ม ดอกไม้ทอง ผู้เฝ้าฯ อยู่ในมหาสมาคมถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเช่น เวลาเสด็จออก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปประทับพัก ณ พระที่นั่งราชกรัณยสภา

พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการที่มาเฝ้าฯ และผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้านำดอกไม้ธูปเทียนไปรอเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งราชกรัณยสภาไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณีพระพุทธรูปฉลองพระองศ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่และทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลาบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถไปขึ้นปราสาท พระเทพบิดรด้านหน้ามุขตะวันออก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ ทรงกราบถวายบังคมพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชทั้ง ๘ รัชกาล แล้วเสด็จออกจากปราสาทพระเทพบิดรไป ประทับรถยนต์พระที่นั่งออกจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามทางประตูสวัสดิโสภา พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปต่อไป

งานตอนนี้แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศสวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า

อนึ่ง ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลวันที่ ๕ พฤษภาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้กราบถวายบังคมพระบรมรูปตั้งแต่เวลา ๙ นาฬิกา ถึง ๑๗ นาฬิกา

การนี้แต่งกายสุภาพ

ที่มา:กรมศิลปากร