พระราชกุศลมาฆบูชา

Socail Like & Share

มาฆะเป็นชื่อของดาวฤกษ์ เมื่อถึงเดือน ๓ ดวงจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะคือดวงจันทร์โคจรสู่ดาวมาฆะบูรณมี ขึ้น ๑๕ คํ่า พุทธศาสนิกชนประกอบพิธีมาฆบูชา แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาสคือมีเดือน ๘ สองหน พิธีมาฆบูชาจะต้องเลื่อนไปทำในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ คํ่า เดือน ๔พระราชกุศลมาฆบูชา

วันมาฆบูชามีความสำคัญของพุทธศาสนาด้วยเหตุ ๔ ประการ เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต คือ
๑. เป็นวันที่พระภิกษุจำนวน ๑๒๕๐ รูป มาประชุมเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นบรมศาสดา ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ โดยมิได้นัดหมาย
๒. พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
๓. พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งสิ้น
๔. เป็นวันที่ดวงจันทร์เสวยฤกษ์มาฆบูรณมี

เมื่อเป็นวันที่น่าอัศจรรย์โดยที่พระภิกษุมารวมประชุมเฝ้าพร้อมกันเป็นจาตุรงคสันนิบาตเช่นนี้ พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงเทศนาโอวาทปาติโมกข์ซึ่งมีใจความเป็นหลักของพระพุทธศาสนา คือ ไม่ทำความชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาเหตุนี้บูชาพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ ๑๒๕๐ รูป นับว่าเป็นองค์ประกอบที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก

การพระราชกุศลมาฆบูชาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือพระราชพิธี ๑๒ เดือนว่า มีการบำเพ็ญกุศล เวลาเช้า พระสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ๓๐ รูป มาฉันในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลาคํ่าเสด็จออกทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแล้วพระสงฆ์ทำวัตรเย็นเหมือนอย่างที่วัด และสวดมนต์ต่อแล้วสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์จบ มีจุดเทียนตามราวรอบพระอุโบสถ ๑๒๕๐ เล่ม มีประโคมสังข์แตรดุริยางค์ แล้วจึงเทศนาโอวาทปาติโมกข์กัณฑ์ ๑ เป็นภาษาบาลีและภาษาไทย เครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ มีจีวร ๑ ผืน เงิน ๓ ตำลึง และขนมต่างๆ เมื่อเทศน์จบพระสงฆ์ ๓๐ รูปสวดมนต์รับสัพพี

ในรัชกาลต่อมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนถึงวันมาฆบูชาเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง จะได้นำเทียนรุ่งไปตั้งถวาย ณ พระราชฐานที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก หัวหน้ากองพระราชพิธีกราบบังคมทูลว่า

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ในการพระราชกุศลมาฆบูชาปีนี้ ตรงกับวัน……ที่……กุมภาพันธ์ เจ้าพนักงานพระราชพิธีได้จัดเทียนรุ่งมาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อทรงพระราชอุทิศพระราชทานไปจุดบูชาพระรัตนตรัย ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตร วัดราชประดิษฐ์ วัดราชบพิธ และวัดนิเวศธรรมประวัติ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

จบคำกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมเทียนรุ่ง ทรงคม ทรงพระราชอุทิศแล้วเสด็จขึ้น เจ้าพนักงานเชิญเทียนรุ่งไปถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวงตามที่ทรงพระราชอุทิศ

ส่วนการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ ทรงจุดเทียนชนวนพระราชทานหัวหน้ากองพระราชพิธีสำหรับเชิญไปถวายเจ้าอาวาสจุดเทียนรุ่งที่ได้ทรงพระราชอุทิศบูชาพระรัตนตรัยตามพระอารามหลวง พระสงฆ์ ๓๐ รูปเจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรยดอกมะลิ ๑๒๕๐ ดอก เท่าจำนวนพระอรหันต์ที่ธรรมาสน์ศิลาสำหรับพระราชาคณะจะนั่งถวายพระธรรมเทศนา แล้วทรงจุดธูปเทียน เครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ ๑ จบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสด็จพระราชดำเนินกลับ

การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบปรกติขาว

อนึ่ง วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนา ทางราชการได้กำหนดให้หยุดราชการ ๑ วัน

ที่มา:กรมศิลปากร