ชาวญี่ปุ่นใช้ลิงสอนลูกหลาน

Socail Like & Share

ลิงนั้นคงจะเป็นสัตว์แพร่หลายไปทั่วโลก แม้ตามเกาะแก่งต่างๆ ก็ยังมีลิงอยู่ ชาวญี่ปุ่นเป็นชาติที่เคร่งครัดในเรื่องศีลธรรมและวัฒนธรรมมาแต่เดิม เขามีวิธีการที่จะปลูกฝังศีลธรรมให้เยาวชนหลายอย่าง มีอยู่วิธีหนึ่งที่ใช้ลิงเป็นเครื่องมือ คือทำเป็นรูปลิง ๓ ตัว เขาเรียกลิง ๓ ตัวนี้ว่าลิงฉลาด ลิง ๓ ตัวนั้นคือลิงสามตัว

ตัวที่ ๑ ชื่อ มีซารุ ทำเป็นรูปลิงเอามือปิดตา มีความหมายว่าไม่ต้องการเห็นสิ่งชั่วร้ายต่างๆ

ตัวที่ ๒ ชื่อ มิกาซารุ  ทำเป็นรูปลิงเอามือปิดหู มีความหมายว่า ไม่ต้องฟังสิ่งชั่วร้ายต่างๆ

ตัวที่ ๓ ชื่อ มาซารุ  ทำเป็นรูปลิงเอามือปิดปาก มีความหมายว่าไม่ต้องการพูดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ

ความมุ่งหมายที่ทำเป็นรูปลิงสามตัว เพื่อจะสั่งสอนประชาชนของชาติญี่ปุ่นนี้นับว่าเป็นความคิดที่ดีเหลือเกิน เพราะสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ที่จะเข้าไปสู่จิตใจของคนเรานั้น ก็มาทางตาหู และปากของเรานี่เอง ใครก็ตามถ้าสามารถที่จะปิดหูปิดตาปิดปาก โดยไม่ให้ความชั่วร้ายต่างๆ เข้าไปแล้ว นับว่าเป็นคนที่ดีได้

จากคติของญี่ปุ่นเรื่องลิงปิดตาหูปากนี้ ทำให้คิดถึงพระเครื่องรางอย่างหนึ่งของเราที่เรียกว่าพระภควัมหรือพระปิดทวารทั้งเก้า ว่ากันว่ามีคุณในทางป้องกันศัสตราวุธทุกชนิด แต่น่าคิดว่าท่านโบราณาจารย์น่าจะคิดทำพระเครื่องรางแบบนี้ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องสั่งสอนหรือเตือนสติศาสนิกชนให้ปิดทวารคือทางเข้าทั้งเก้าแห่งเสียเพื่อมิให้ความชั่วร้ายเข้าสู่จิตใจของเราก็เป็นได้ ถ้าเรานับถือพระภควัมในแง่นี้ ก็น่าจะเป็นผลดีมากกว่าที่จะนับถือท่านในทางอยู่ยงคงกระพันกระมัง

ก่อนจะจบเรื่องของลิง ขอให้ท่านสังเกตว่าเคยเห็นลิงหลับบ้างไหม คนที่พูดกล่อมใจคนเก่งกล่าวกันว่าสามารถกล่อมให้ลิงหลับก็ได้ จึงพูดกันว่าคนนั้นพูดจนลิงหลับ แต่ฟังไปในทำนองไม่ค่อยจะเป็นมงคลแก่ผู้ถูกกล่าวขวัญถึงนัก ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องลิงหลับต่อไปอีกสักนิดคราวนี้เกี่ยวกับลมด้วย เรื่องมีอยู่ว่า ลมสลาตัน ซึ่งเป็นเจ้าแห่งความเร็วและความแรง สามารถพัดพาอะไรๆ ให้ล่องลอยไปได้ง่าย ไปพบลมพัทธยาซึ่งพัดเอื่อยๆ เข้า ลมสลาตันหัวเราะเยาะว่าลมพัทธยาพัดแบบนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ลมพัทธยาจึงว่า ท่านถือว่าท่านมีกำลังแรง ลองมาพนันกับเราก็ได้ ถ้าท่านมีกำลังจริงลองพัดลิงที่เกาะอยู่ตามต้นไม้นั้นให้หล่นดูซิ ลมสลาตันมองดูลิงที่ไต่ยั้วเยี้ยอยู่บนต้นไม้แล้วหัวเราะ บอกว่าไม่ถึงอึดใจจะพัดให้ร่วงหมด ว่าแล้วก็แผลงฤทธิ์พัดไปโดยเร็วและแรง ฝ่ายเหล่าวานรทั้งหลายพอพายุพัดมาแรงก็พากันกอดแนบนิ่งอยู่กับกิ่งไม้ ลมสลาตันพัดเท่าไรก็ไม่สามารถทำให้ลิงตกได้แม้แต่ตัวเดียว ต้องยอมให้ลมพัทธยาพัดต่อไป ฝ่ายลมพัทธยานั้นคือลมที่พัดเอื่อยๆ และมีการกรรโชกแรงเป็นบางครั้ง เมื่อพัดเอื่อยๆ พวกลิงก็พากันง่วง พอเห็นลิงง่วง ลมก็กรรโชกแรง ลิงเผลอตัวก็ร่วงหล่นลงมาจากต้นไม้เป็นแถว ลมสลาตันต้องยอมแพ้

ท่านได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องของลม ๒ ชนิดนี้บ้างไหม

ลิงนั้น แม้ว่าสามารถฝึกสอนให้มันทำอะไรได้หลายอย่างก็ตาม แต่ลิงก็คงเป็นลิงอยู่นั่นนเอง เล่ากันว่ามีเจ้าของละครลิงคณะหนึ่ง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ให้นำละครลิงของตนเข้าไปแสดงถวาย ละครลิงคณะนั้น แสดงได้ดีเป็นที่สพพระราชหฤทัย จึงโปรดพระราชทานรางวัลเป็นเงิน ๒๐ บาท พระองค์ทรงยื่นธนบัตรใบละ ๒๐ บาท พระราชทานให้ลิงตัวเอกในเรื่อง ขณะนั้นพระองค์ทรงพระโอสถซิการ์อยู่ แทนที่พระเอกลิงจะรับพระราชทานเงิน มันกลับจะเอาซิการ์ ซึ่งกำลังทรงอยู่นั้นตกลง พระองค์ต้องพระราชทานซิการ์ไป ลิงพระเอกรับพระราชทานแล้วไปสูบพ่นควันโขมง พอออกมาจากที่แสดงพ้นเขตพระราชฐาน พระเอกลิงถูกเจ้าของเฆี่ยนเสียเจียนตาย เพราะอดได้เงินตั้ง ๕ ตำลึง ซึ่งเป็นเงินมิใช่น้อยในสมัยนั้น

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี