งูเป็นสัตว์เลื้อยคลาน

Socail Like & Share

พูดถึงงูใครๆ ก็รู้จัก ส่วนใหญ่ทั้งเกลียดทั้งกลัวและขยะแขยงทีเดียว แต่บางคน เช่นพวกขี้เมาเห็นงูเป็นอาหารอันโอชะก็มีไม่น้อย

งูเป็นสัตว์เลื้อย ไม่มีอวัยวะช่วยความเคลื่อนไหวภายนอกร่างกาย คือไม่มีตีน หรือครีบอย่างสัตว์อื่นหรือปลา งูอยู่ในวงศ์สัตว์เลื้อยคลานสะเทินบกสะเทินน้ำ สามารถเลื้อยบนที่แห้งหรือขึ้นต้นไม้ได้ สามารถเคลื่อนไหวในน้ำหรือบนผิวน้ำได้ และบางพวกที่อยู่ในนาเค็มหรืองูทะเล เคลื่อนไหวได้เช่นเดียวกับปลา พวกนี้มีลักษณะเป็นปลาค่อนข้างแบน และส่วนหน้าอกหรือส่วนท้องคล้ายคมมีด ทำให้ว่ายน้ำสะดวกขึ้น แต่เลื้อยบนบกไม่ได้

งูส่วนมากมีลักษณะกลมยาว มีศีรษะเป็นรูปกระสวยหรือเบี้ยจั่น ต่อจากศีรษะคอจะมีขนาดเล็กลงและค่อยๆ โตไปตามลำตัว แล้วก็เล็กลงจนกระทั่งถึงหาง งูก็เหมือนสัตว์อื่นอีกหลายอย่างที่มีสีสรรเป็นไปตามลักษณะของสิ่งแวดล้อม เช่นงูเขียวชอบอยู่ตามต้นไม้ และงูกะปะซึ่งมีสีคล้ายใบไม้แห้ง ชอบอยู่ในบริเวณทรายสกปรกและมีใบไม้แห้งเป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันมิให้ศัตรูเห็นตัวนั่นเอง งูเป็นสัตว์มีตาแต่ไม่มีหนังตา ทำให้แพ้แสงง่าย ออกหากินในเวลากลางวันไม่สะดวก มันจึงต้องออกหากินในเวลากลางคืน ตั้งแต่พลบค่ำจนกระทั่งสว่าง งูไม่มีอวัยวะที่ทำให้เกิดเสียงแต่อาจจะทำเสียงได้โดยการขยายอวัยวะหายใจ ซึ่งมีอยู่ เกือบตลอดลำตัว งูมีลิ้นที่สามารถตวัดเอาแมลงกินได้เช่นเดียวกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกทั้งหลาย

ในประเทศไทยเรามีงูอยู่หลายชนิดทั้งไม่มีพิษ มีพิษน้อย และมีพิษร้ายแรง งูที่มีพิษร้ายแรงในประเทศเราก็คือ งูเห่า งูแมวเซา งูสามเหลี่ยม งูจงอาง และงูกะปะ ซึ่งมีอยู่ในจังหวัดต่างๆ ที่มีดินปนทรายเช่นจังหวัดทางภาคใต้เป็นต้น มีงูกะปะอยู่ชุกชุม งูเหล่านี้ กัดคนตายได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีงูทะเลบางชนิดที่กัดคนตายเหมือนกัน

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี