คำพังเพยและสุภาษิตเกี่ยวกับเรือ

Socail Like & Share

นอกจากเพลงเรือแล้ว เพราะเหตุที่เราต้องใช้เรือ คำพังเพยหรือสุภาษิตเกี่ยวกับเรือมีอยู่หลายคำเช่น

“น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” หมายความว่า ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมน้ำจะต้องพึ่งเรือ ที่ถูกเรือต้องพึ่งน้ำ เพราะถ้าไม่มีน้ำเรือก็แล่นไม่ได้ ความจริงก่าจะเป็นเช่นนั้น แต่คนโบราณ  ท่านคิดของท่านอีกเรือมุมหนึ่ง คือท่านเห็นว่า แม่น้ำลำคลองนั้นถ้าไม่มีเรือแล่นขึ้นล่อง ก็จะตื้นเขินเสียง่ายๆ ถ้าเรือแล่นขึ้นล่องแล้ว ก็จะช่วยพัดพาเอาทรายเอาตะกอนหรือดินชายฝั่งให้ลงแม่น้ำ เป็นเหตุให้แม่น้ำไม่ตื้นเขินเสียง่ายๆ น้ำจึงต้องพึ่งเรือด้วยประการฉะนี้ ส่วนเสือพึ่งป่านั้นไม่มีปัญหาอะไร เสือถึงแสนดุร้ายถ้าไม่มีป่ากำบังกายแล้ว ก็จะถูกล่าเสียได้ง่ายๆ คำเต็มของคำพังเพยบทนี้ก็คือว่า “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ข้าพึ่งเจ้าบ่าวพึ่งนาย” คำกลอนอิสรญาณตอนหนึ่งว่า

“ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า      น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
เขาก็จิตคิดดูเล่าเราก็ใจ  รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ”

“น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ” สุภาษิตบทนี้เตือนใจว่า ถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงแล้ว เราอย่าไปห้ามเลย ขืนเข้าไปห้ามก็มีหวังเราเองจะลำบาก เหมือนน้ำเชี่ยวถ้าเอาเรือไปขวาง ก็มีทางจมมากกว่า

‘‘ปรานีตีเอาเรือ” เรื่องนี้ก็หมายความว่า ช่วยด้วยความปรานีแต่กลับถูกประทุษร้ายเหมือนการทำคุณบูชาโทษ คำนี้ปรากฏในพระราชนิพนธ์ เรื่องสังข์ทอง ในรัชกาลที่ ๒ ว่า

“เอออะไรมาเป็นเช่นนี้        ช่วยว่าให้ดีก็มิเอา

มุทะลุดุดันกันเหลือ        ปรานีตีเอาเรือเสียอีกเล่า”

หรือในคำกลอนพระอภัยมณีตอนหนึ่งว่า

“นึกว่าเพื่อนเหมือนเขาว่าเพราะปรานี  ใยกลับตีเอาเรือไม่เชื่อฟัง”

คำพังเพยบทนี้คงกิดจากคนเดินทางด้วยเรือ รับคนลงเรือมาด้วยความเมตตาแล้วคนนั้นตีเอาเรือไปก็เป็นได้

“ไปไหนเรือรั่ว เมียชั่ว นายชัง” คำพังเพยนี้หมายความว่า คนที่ต้องโดยสารเรือไปไหน แล้วเรือกลับรั่วนั้นเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด เพราะต้องพะวงกับการวิดน้ำที่รั่วเข้าเรือ ไม่วิดก็ไม่ได้เพราะเรือจะจม เมียชั่วนั้น ผัวต้องช้ำใจทุกคน ส่วนคนเราที่ทำงานนั้นถ้านายชังไม่รักชอบเสียแล้ว ก็มีหวังที่จะไม่ได้เงินเดือนขึ้นเสียมากกว่า

คำพังเพยที่เกี่ยวกับเรืออีกคำหนึ่งก็คือ “ไม่เป็นโล้เป็นพาย” อันการที่เราจะพาเรือให้แล่นไปไหนๆ ได้นั้น ต้องโล้หรือพายเรือไป คนที่โล้เรือก็ไม่เป็น พายเรือก็ไม่ได้ จะทำอะไรในเรือก็ไม่ถนัดทั้งนั้น เราเอาคำนี้มาหมายความถึงคนที่ทำอะไรไม่ค่อยจะได้ความด้วยเรียกว่าไม่เป็นโล้เป็นพาย

เรือจ้าง คือเรือรับจ้างบรรทุกคนโดยสารข้ามฟากแม่น้ำลำคลอง เราเอาความหมายมาใช้เรียกครูว่า “เรือจ้าง” เพราะครูสอนลูกศิษย์ให้จบการศึกษาผ่านไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ตนเองยังประจำอยู่ที่เดิม เหมือนคนแจวเรือจ้างรับส่งคนโดยสารข้ามฟากนั่นเอง คำนี้หมายถึงความน้อยเนื้อต่ำใจของครูที่เป็นอาชีพถือกันว่าไม่ก้าวหน้า แต่สมัยนี้ครูก้าวหน้ากว่าอาชีพอื่นอีกหลายอาชีพ ครูปัจจุบันไม่ใช่เรือจ้าง แต่เป็นเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่สามารถบรรทุกคนโดยสารข้ามมหาสมุทรไปคราวละมากๆ ควรจะเลิกน้อยใจเสียที

ที่มา:วิชาภรณ์  แสงมณี