ข้อคิดจากวันปิดภาคเรียน

Socail Like & Share

ในระหว่างปิดภาคหน้าร้อนของโรงเรียน ในกรุงอากาศอบอ้าวจนแทบจะทนไม่ได้ ครอบครัวของวิมลจึงคิดว่าจะไปพักผ่อนกับญาติที่ต่างจังหวัด ทุกคนก็เตรียมจัดกระเป๋าของตัวเอง คุณแม่ของเธอกำชับว่า อย่าเอาเสื้อผ้าไปหลายชุดนัก เพราะต้องเผื่อที่สำหรับสัมภาระอื่นด้วย และบอกว่า
“เดินทางไปอย่างนี้ ฝุ่นสกปรกมาก แม่อยากให้ลูกเอาเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อหลวมๆ ที่ใส่สบาย เลือกเอาพวกผ้าดอก ผ้าริ้ว หรือผ้าที่สีไม่อ่อนนักนะ อ้อ! เอาสีกางเกงที่มันใส่สกปรกเก่งดีกว่าจ้ะ สีน้ำเงินหรือสีน้ำตาลเทา หรือสีฟางก็ได้ เวลาเปรอะเปื้อนจะได้มองไม่ค่อยเห็น เราอาจไม่ใคร่มีเวลาซักรีด ลูกควรหาเสื้อผ้าสีกลมกลืนกัน จะได้สับเปลี่ยนใส่ตัวนั้นตัวนี้ได้ ไม่ต้องหอบเอาไปหลายชุดนัก”

วิมลจัดกางเกงและผ้าถุงไป ส่วนเสื้อผ้าเป็นชุดจัดไปชุดเดียวเผื่อมีงานเลี้ยง หรืองานที่ต้องใส่กระโปรง สีของเสื้อผ้าก็เลือกตัวที่มีไม่เกินสามสีเพื่อจะได้ใส่ผลัดเปลี่ยนกับรองเท้าและของประกอบอื่นๆ ได้ เสื้อผ้าก็เป็นแบบไม่ยับง่าย และใส่ซ้ำได้

แม่ของวิมลบอกว่า
“เราไปอยู่บ้านใคร ควรจะเกรงใจเจ้าของบ้านเขาให้มาก อะไรที่ไม่ควรรบกวนเขาก็พยายามละเว้นเสีย นอกจากจำเป็นจริงๆ ถ้าช่วยอะไรได้ก็ควรช่วย เพราะบ้านอื่นอาจไม่มีคนบริบูรณ์อย่างบ้านของเรา”

คุณแม่ทราบว่าที่บ้านญาติมีลูกเล็กๆ จึงได้หาของเล่นไปฝาก และมีของฝากเจ้าของบ้านเสมอ ท่านพูดว่า
“นี่แหละเป็นการแสดงน้ำใจอันดี
“แต่ถ้าเราเผอิญไปพบคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและไม่มีของฝาก ก็ควรเขียนจดหมายขอบใจเขา หรือไม่ก็ส่งของตอบแทนไปให้ภายหลังให้พอดูและเหมาะสม แม่ไม่อยากให้ลูกๆ ไปอยู่กับเขาโดยถือเสียว่า เป็นญาติกันก็ต้องรับรองกัน เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ของเขาหรอก การที่เขารับรองอย่างดี ก็เพราะน้ำใจไมตรีที่เรามีต่อกันนั่นเอง”

คุณแม่หาถุงพลาสติคใส่ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ ไปให้วิมลหลายผืน เนื่องจากวิมลกำลังเป็นหวัด และที่บ้านนั้นอาจไม่สะดวกเรื่องน้ำ และอาจไม่มีเวลาที่จะซักได้ทัน จึงไม่ทำให้เสื้อผ้าอื่นสกปรกเมื่อต้องใส่รวมกันในกระเป๋า ให้เตรียมผ้าเช็ดตัว และเสื้อคลุมหลวมๆ สำหรับตัวเองไปด้วย แม่ของวิมลให้เหตุผลว่า
“จะได้ดูดีและสะอาดตา เผื่อว่าลูกๆ จะต้องไปอยู่กับญาติ จะได้มองไม่รุ่มร่ามน่าเกลียด ส่วนใครที่ไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำ ก็เอาผ้าถุงไปอีกผืนหนึ่งไว้เปลี่ยนเวลาอาบน้ำด้วยจ้ะ”

ของจำเป็นอย่างอื่นที่ต้องติดตัวไปด้วย ก็เอาขนาดที่พอดี เช่น สบู่ กระจก ขันเล็กๆ แปรงสีฟัน หวี แป้งผัดหน้า ด้าย เข็ม กรรไกร มีดพับ ฯลฯ และคุณแม่ของวิมลก็ไม่ลืมที่จะเอายาที่รับประทานประจำไปด้วย

ตอนกลางคืนที่ทางภาคเหนืออากาศค่อนข้างเย็น คุณแม่ของวิมลได้เตรียมเสื้อกันหนาวบางๆ ให้เธอตัวหนึ่ง ทุกคนมีผ้าแพรคลุมผมติดตัวไปใช้เมื่อเวลาต้องเดินทางโดยรถจิ๊บที่ต้องโดนลมแรง ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นเสื้อกันหนาวกับแพรคลุมผมนับว่ามีประโยชน์มาก

วิไลพี่สาวคนโตพูดขึ้นว่า
“แหม! คุณแม่คะ หนูดีใจจังเลยที่เอารองเท้าส้นเตี้ยมา ไม่ยังงั้นละก็ หนูท่าจะเจ็บเท้าแย่ทีเดียว ถ้าเผื่อเอารองเท้าส้นสูงๆ มา”

คุณแม่ตอบว่า
“นั่นน่ะซี”
“รองเท้าที่เอาไปต่างจังหวัดด้วยน่ะ ควรจะเลือกสีแก่ๆ เช่น สีดำ น้ำตาล น้ำตาลแก่ น้ำเงินแก่ เขียวแก่ หรือแดง เพราะจะได้สวมได้กับเสื้อผ้าทุกชุดของลูก รองเท้าแตะของลูกๆ เอามากันทุกคนใช่ไหมจ๊ะ? อ้อ! แม่หวังว่าทุกคนคงจัดรองเท้าอย่างเรียบร้อยไม่ให้เสื้อผ้าพลอยสกปรกไปด้วยนะจ๊ะ?”

ทุกคนตอบว่าได้เอารองเท้าห่อกระดาษไว้แล้วต่างหาก ส่วนวิมลได้เย็บถุงผ้าดิบใส่รองเท้าของเธออีกด้วย เธอได้รับคำชมจากคุณแม่ว่าเป็นคนเรียบร้อยดีมาก

กระเป๋าที่คุณแม่เลือกใช้ ก็มีขนาดไม่ใหญ่นักเพื่อความสะดวกในหลายๆ อย่าง เช่น เก็บเข้าที่ก็ง่าย สามารถยกได้เองโดยไม่ต้องให้คนอื่นช่วย คุณแม่เขียนป้ายชื่อผูกติดกับกระเป๋าทุกใบเพื่อกันหายเมื่อมีการขนย้าย และสั่งให้ลูกทุกคนใส่กุญแจกระเป๋าให้เรียบร้อย

ในเรื่องการรักษาเวลา เด็กทุกคนได้รับการอบรมมาดีแล้ว จึงไม่มีใครตื่นสาย หรือชักช้าเรื่องรับประทานอาหาร เมื่อไปพักที่บ้านญาติ เพื่อให้การทำอาหารเสร็จโดยเร็วและเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าของบ้าน ทุกคนจะตื่นเช้าและช่วยกันคนละไม้ละมือ คุณแม่สอนว่า

“ถ้าเรากะโครงการกันว่าจะไปไหน แม่ก็ต้องการให้ลูกทุกคนเตรียมตัวคอยผู้ใหญ่ให้เสร็จพร้อม ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่คอยลูก การไปไหนมาไหนกับผู้ใหญ่ต้องรักษาเวลาให้ตรง ถ้าไปกันกับเด็กๆ เสียอีก เรื่องนี้ยังไม่ค่อยสำคัญ”

“ทุกคนต้องช่วยตัวเองกันให้ได้ อย่าทำให้ผู้ใหญ่ต้องคอยกังวลเป็นห่วงเป็นใยเรา เผื่อท่านจะให้ทำอะไรก็จงเต็มใจรับใช้ อย่าหลบหน้าไปอยู่เสียห่างๆ เพราะความขี้เกียจรับใช้ท่าน ลูกของแม่ก็มาด้วยกันหลายคน แม่อยากให้ผลัดกันคอยรับใช้คุณป้า อย่าหลบหน้าหายตัวไปพร้อมๆ กันหมด”

แทนที่คุณป้าจะรู้สึกหนักใจที่ต้องมีหลานมาอยู่ด้วยหลายคน แต่ท่านกลับเบาใจไปมาก เพราะคุณแม่สั่งให้ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำ

เด็กทุกคนเป็นผู้มีมารยาทดี ไม่เห็นแก่สนุก ทุกคนประพฤติตัวเรียบร้อยเหมาะกับกาลเทศะ ทั้งเวลาที่อยู่กับบ้านหรือออกไปท่องเที่ยวข้างนอกกับคุณป้า ทุกคนได้ความรู้และเพลิดเพลินเพิ่มขึ้นจากการที่คุณป้าได้เล่าเรื่องพื้นเมืองสนุกๆ ให้ฟัง

เมื่อออกไปเที่ยวข้างนอก เผื่อว่าคุณป้าต้องการใช้สอย วิมลกับวิไลก็จะคอยช่วยกันดูแลอยู่เสมอ ทำให้คุณป้าเอ็นดูหลานๆ เพิ่มขึ้นอีกมาก

คุณป้าและครอบครัวของท่านเบาใจ แม้ว่าจะจัดการเลี้ยงพระขึ้นในขณะที่เด็กๆ อยู่ที่นั่น การที่ได้อบรมมาเป็นอย่างดีทำให้คุณป้าแน่ใจว่าทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี ท่านพูดว่า
“เราอยู่ต่างจังหวัดก็สะดวกดีจ้ะ”
“บ้านโน้นทำอย่างหนึ่งมาช่วย บ้านนี้ทำมาช่วยอีกอย่าง งานก็เสร็จไปได้อย่างสบาย”

คุณป้าจัดรายการอาหารไว้แต่เนิ่นๆ พยายามเลือกอาหารที่ท่านทำแล้วอร่อย เป็นแม่บ้านที่มีความรอบคอบมาก ท่านพูดว่า
“ไอ้อาหารชื่อเสียงแปลกๆ เพราะๆ น่ะ เราไม่เคยทำ ถ้าไปทำเข้าอาจจะออกรสชาติพิกล กลายเป็นบาปไปเปล่าๆ แทนที่จะได้บุญ ป้าจึงไม่เคยเลี้ยงพระ หรือเลี้ยงแขกด้วยอาหารที่ป้าไม่เคยลองทำมาเลย แต่ต้องแน่ใจว่ารสดีเท่านั้น”

พอถึงวันเลี้ยงพระเพล มีหญิงเพื่อนบ้านคนหนึ่งอาสาออกไปจ่ายกับข้าว กระเดียดกระจาดเข้ามาแต่เช้าตรู่ มีกุ้ง หมู ปู ปลา และผักนานาชนิดพร้อมสรรพ อีกคนก็ช่วยขูดปลาไว้ทำลูกชิ้น อีกคนหั่นผัก เด็กๆ ก็ช่วยกันปอกผลไม้ อีกคนก็ช่วยทำไก่และปลา หั่นหมูหั่นเนื้อไว้ทำแกง ทุกคนก็ทำกันไปคุยกันไป เมื่อเวลาสิบนาฬิกาทุกอย่างก็เสร็จ มีกับข้าวและของหวานมากมาย เสร็จจากเลี้ยงพระแล้วก็ยังมีพอตักแจกจ่ายไปตามบ้านต่างๆ อีกด้วย

วิมลเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่รักษาไม่หาย หญิงเพื่อนบ้านคนหนึ่งก็พาไปหาหมอที่เธอรู้จัก แพทย์จ่ายยาให้ และแทบทุกวันจะต้องมาติดตามดูอาการของแผลไม่ขาด ทำให้วิมลรู้สึกตื้นตันมาก คิดว่าคนต่างจังหวัดมีจิตใจดีและเอื้อเฟื้อกว่าคนกรุงแน่นอน แต่ถ้าไม่มีความสามัคคีกันไม่ว่าจะเป็นจังหวัดไหน ก็คงหาความสงบสุขไม่ได้เช่นกัน

วิมลรู้สึกเสียใจและรำคาญตา เมื่อไปเที่ยวน้ำตกขึ้นชื่อในจังหวัดแห่งหนึ่ง เพราะก้อนหินที่สวยงามบริเวณน้ำตกถูกสลักชื่อ และเปรอะเปื้อนไปด้วยสี รอยขูดขีดด้วยของมีคม และคิดว่าต่อไปอีกไม่นานก็คงมีชื่อสลักเต็มไปหมด คงหาก้อนหินสวยๆ ดูได้ยากเต็มที ป่าไม้สวยๆ ก็คงไม่มีเหลือให้ดูกันอีกต่อไป

คนที่เล่นน้ำตกสบายใจแล้ว ก็มักมานั่งกินอาหารตามก้อนหินใหญ่ กินเสร็จก็ทิ้งขยะเลอะเทอะไปหมด แม้จะมีถังขยะอยู่ใกล้ๆ แต่ทุกคนก็ไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย

เมื่อโรงเรียนใกล้เปิดภาคเรียน วิไล วิมล และน้องๆ ก็ลาคุณป้ากลับ คุณป้าบอกกับเด็กเหล่านี้ว่า
“หยุดเทอมหน้ามากันใหม่ทุกคนนะจ๊ะ”

ที่มา: จากหนังสือเรื่อง มรรยาทงาม ของ ผกาวดี อุตตโมทย์