ประกอบกับการที่ได้กล่าวมาแล้วถึงวิธีลากพระกับความเข้าใจของพลเมือง ถึงเรื่องการลากพระนี้ คือ พลเมืองเข้าใจว่า “เป็นลัทธิธรรมเนียมสืบมาแต่ครั้งโบราณ ครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาบนชั้นดาวดึงส์ และไปจำพรรษา พอออกพรรษาแล้วจึงได้เสด็จกลับลงมายังเมืองสังกัสสนคร ในสมัยนั้น ราษฎรพลเมืองที่เป็นพุทธศาสนิกชน ต่างก็เตรียมไปรับเสด็จ มีการทำบุญให้ทานกันมากเหลือประมาณ จนจะนำอาหารบิณฑบาตไปถวายให้ถึงพระองค์พระพุทธเจ้าไม่ได้ จึงคิดทำข้าวต้มซัดกันเข้าไป ธรรมเนียม อันนี้จึงสืบกันมาจนทุกวันนี้”
ดังนี้ คราวนี้ลองนึกว่าถ้าเป็นดังเช่นที่กล่าวมานี้จริง ข้อที่น่าสงสัยมาก คือ เพราะธรรมเนียมที่สืบมาทางพุทธศาสนาและพลเมืองทั่วไป ในประเทศสยามทั้งฝ่ายเหนือและใต้ นับถือพระพุทธศาสนามาแต่โบราณแล้วเหมือนกัน แต่ทำไมลัทธิธรรมเนียมนี้จึงมีแพร่หลายเฉพาะปักษ์ใต้ ทางฝ่ายเหนือไม่ปรากฎว่าเคยมี ข้อนี้จึงน่าคิดอีกอย่างหนึ่งว่าควรจะเป็นอย่างไรกันแน่ ข้าพเจ้าจึงได้รวบรวมเขียนขึ้น พอเป็นทางให้ท่านผู้รู้ทั้งหลายจะได้สันนิษฐานว่าความจริงเรื่องลัทธิการลากพระอย่างที่ข้าพเจ้าพรรณนามานี้เป็นมาอย่างไรแน่
Leave a Reply